รู้เขารู้เรา…อย่ามัวแต่ตื่นตระหนก กลัวจีนปลูกทุเรียนกินเอง ล่าสุดแม้ทุเรียนไทยยังครองใจ แต่ยังมี’ทุเรียนมาเลเซีย’ ที่ได้รับความชื่นชอบ เนื่องจากเก็บได้นาน แถมบรรจุภัณฑ์ยังสวย
จากรายงานของสํานักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจํากรุงปักกิ่ง ซึ่งได้ทำการสำรวจราคาขายปลีกผลไม้จากร้านแฟรนไชส์ขายผลไม้ และซุปเปอร์มาร์เก็ตในกรุงปักกิ่ง ระหว่างวันที่ 1 -15 มีนาคม2566 (หยวน/กิโลกรัม/กรัม) พบว่า
1. ทุเรียนผลสดไทย จากการสํารวจเบื้องต้นพบว่าทุเรียนสดในตลาดมีปริมาณเพิ่มขึ้นเล็กน้อยและส่วนใหญ่ จะมีวางจําหน่ายในห้างร้านใหญ่ๆ ส่วนในด้านราคา ทุเรียนไทยมีการปรับขึ้นราคาเล็กน้อย
จากการสอบถามพนักงานซุปเปอร์ มาเก็ตเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีต่อทุเรียนไทย ได้คําตอบว่าทุเรียนไทยเป็นที่นิยมมาก โดยเฉพาะทุเรียนสด เพราะผู้บริโภค ส่วนใหญ่ให้ความมั่นใจกับทุเรียนผลสดมากกว่าทุเรียนแช่แข็ง นอกจากนี้ทุเรียนผลสดแกะเนื้อเริ่มเป็นที่นิยม เพราะมีปริมาณพอเหมาะและสะดวกต่อการรับประทาน
2. ทุเรียนผลสดเวียดนาม จากการสํารวจร้านขายผลไม้หลายแห่ง พบว่า ปริมาณทุเรียนเวียดนามในตลาดลดลง ซึ่งจากเดิมทุเรียนเวียดนามมีการจําหน่ายทุเรียนเกรด A และ เกรด B ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีเพียงทุเรียนเกรด B ที่วาง จําหน่ายตามห้างร้าน
และด้วยเหตุนี้ทําให้ทุเรียนเวียดนามมีราคาลดลงจากเดิม นอกจากทุเรียนเวียดนามมีราคาต่ําลงแล้วยังพบว่า หลายห้างร้านทําการจัดโปรโมชั่นลดราคาลงอีกด้วย ซึ่งมีผู้ประกอบการให้ความเห็นว่าสาเหตุอาจจะมาจากทุเรียนไทยที่ กําลังเดินทางเข้ามาจีนเร็วๆนี้
3. ทุเรียนแช่แข็งมาเลเซีย จากการสํารวจเบื้องต้นสําหรับทุเรียนมาเลเซีย จะเห็นได้ว่าราคาค่อนข้างคงที่ไม่มีการปรับลดราคา หรือจัดโปรโมชั่นใดๆ และจะเห็นได้ว่าในห้างร้านมีการวางจําหน่ายสองสายพันธุ์หลักๆคือ ‘เมาซานคิง’ และ ’หนามดํา’ เพราะค่อนข้างเป็นที่นิยมและมีราคาสูง
จากการสอบถามพนักงานร้านค้า พบว่า ทุเรียนมาเลเซียได้รับความนิยม เนื่องจากเก็บไว้ได้นาน และบรรจุภัณฑ์สวยงาม เหมาะสําหรับใช้เป็นของฝากในโอกาสต่างๆ
ขอบคุณข้อมูล : สํานักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจํากรุงปักกิ่ง