ก.เกษตรฯ เปิดปฏิบัติการฝนหลวงประจำปี 2566 ปล่อยคาราวานเครื่องบินฝนหลวงออกปฏิบัติการทั่วประเทศ พร้อมลุยแก้ปัญหาภัยแล้งช่วยเหลือเกษตรกร

นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดปฏิบัติการฝนหลวงประจำปี 2566 โดยมี นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร รักษาราชการแทนอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร พร้อมด้วยข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ บริเวณหน้าหอบังคับการบินสนามบินนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พิธีเปิดปฏิบัติการฝนหลวงประจำปี 2566 มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงถึงความพร้อมของหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงทุกหน่วยที่จะออกปฏิบัติการฝนหลวง และสร้างขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ รวมทั้งช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่ประสบภัยแล้ง สร้างความชุ่มชื้นให้กับป่าไม้ การป้องกันการเกิดไฟป่าและบรรเทาปัญหาหมอกควัน ป้องกันการเกิดพายุลูกเห็บ แก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ที่เกินเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน รวมถึงการเติมน้ำต้นทุนให้กับอ่างเก็บน้ำและเขื่อนต่าง ๆ ของประเทศ โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2566 ซึ่งดำเนินการโดยศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงประจำ 5 ภูมิภาค จำนวน 7 ศูนย์ ดังนี้

334067777 581362847006624 3806747611007663991 n
ปล่อยคาราวานเครื่องบินฝนหลวงออกปฏิบัติการทั่วประเทศ

1)ศูนย์ปฏิบัติการภาคเหนือตอนบน ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.ตาก 2) ศูนย์ปฏิบัติการภาคเหนือตอนล่าง ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่ จ.แพร่ และ จ.พิษณุโลก 3) ศูนย์ปฏิบัติการภาคกลาง ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่ จ.นครสวรรค์จ.กาญจนบุรี และ จ.ลพบุรี 4) ศูนย์ปฏิบัติการภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่ จ.อุดรธานี และ จ.ขอนแก่น 5)ศูนย์ปฏิบัติการภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่ จ.นครราชสีมา และ จ.อุบลราชธานี 6) ศูนย์ปฏิบัติการภาคตะวันออก ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่ จ.จันทบุรี จ.สระแก้ว และ จ.ระยอง และ 7) ศูนย์ปฏิบัติการภาคใต้ ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชุมพร จ.สุราษฎ์รธานี และ จ.สงขลา รวมอากาศยานทั้งหมด 30 ลำ ประกอบด้วย อากาศยานของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร จำนวน 24 ลำ และอากาศยานของกองทัพอากาศ จำนวน 6 ลำ

                 

ด้าน นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร รักษาราชการแทนอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนการตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงอาจมีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ของสภาพอากาศและความต้องการน้ำในแต่ละพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อให้เหมาะสมในการปฏิบัติการช่วยเหลือให้ตรงตามเป้าหมายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องประชาชนต่อไป ทั้งนี้สามารถติดต่อประสานแจ้งข้อมูลและขอฝนหลวงได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100 ต่อ 410 หรือช่องทางเพจ Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร, Instagram, Tiktok, Twitter : @drraa_pr และศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงทั้ง 7 ศูนย์ทั่วประเทศ

MOAC Image
MOAC Image
MOAC Image
MOAC Image