วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลฮ่องกงได้ออกมาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกรวมถึงชาวไทย ที่ขณะนี้มีการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมาก อย่างไรก็ตามขอย้ำเตือนให้ผู้ที่จะเดินทางทำความเข้าใจกับข้อห้ามต่าง ๆ ของประเทศนั้น ๆ ด้วย
สำหรับการเดินทางไปยังฮ่องกง นางสาวรัชดา กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศ ได้แจ้งเตือนคนไทยห้ามนำน้ำมันกัญชาเข้าฮ่องกงเด็ดขาด เนื่องจากน้ำมันกัญชาเป็นสารเสพติดต้องห้ามในฮ่องกง หากมีไว้ในครอบครอง ต้องโทษจำคุก 7 ปี และปรับสูงสุด 4.5 ล้านบาท และหากผลิต นำเข้า หรือส่งออกไปฮ่องกง มีโทษหนักจำคุกตลอดชีวิต
“รัฐบาลห่วงใยคนไทยที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวฮ่องกง ขออย่าฝ่าฝืนกฎหมายฮ่องกง หากต้องการความช่วยเหลือในฮ่องกง สามารถติดต่อ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง โทร +852 6821 1545-6 E-mail: [email protected] หรือ Facebook: Royal Thai Consulate-General, Hong Kong” นางสาวรัชดา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในอดีตที่ผ่านมา กัญชาจัดว่าเป็นสารเสพติดประเภทที่ 5 แต่ปัจจุบันกฎหมายได้ประกาศให้ใช้ได้อย่างเสรี จึงมีผลิตภัณฑ์จากกัญชาออกมามากมายทั้งผลิตภัณฑ์อุปโภคและบริโภค หนึ่งในนั้นคือ “น้ำมันกัญชา” ที่สามารถนำมาทั้งใช้ภายนอกและหยดใส่อาหารเพื่อเป็นสรรพคุณในการรักษาโรคต่าง ๆ
น้ำมันกัญชาเป็นสารสกัดเข้มข้นจากต้นกัญชา ที่นำมาเจือจางเพื่อใช้เป็นส่วนประกอบในรูปแบบของยาทางการแพทย์ หรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มีวัตถุประสงค์ในการรักษาโรคเป็นหลัก โดยสามารถใช้ได้ทั้งเป็นแบบรับประทานและแบบทาภายนอก
สำหรับสรรพคุณของน้ำมันกัญชานั้นจะแบ่งตามลักษณะการใช้งาน ซึ่งมีอยู่ 2 รูปแบบ คือ ยารับประทาน ซึ่งน้ำมันกัญชาในรูปแบบของยารับประทานโดยปกติจะใช้การหยดลงในน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้ อีกทั้งยังสามารถหยดรับประทานได้แบบเพียว ๆ โดยการหยดลงใต้ลิ้น ซึ่งจะออกฤทธิ์ภายใน 15 นาที ถึง 30 นาที โดยในน้ำมันกัญชาจะมีสาร Canabinoids ที่ช่วยความวิตกกังวล แต่หากใช้มากเกินไป ฤทธิ์ในกัญชาจะทำให้เพิ่มความวิตกกังวลมากขึ้น
นอกจากนี้เนื่องจากสารในกัญชาที่สกัดมานั้นจะไปกระตุ้นให้ร่างกายอยากอาหารมากขึ้น โดยเฉพาะอาหารจำพวกไขมัน จึงมักจะนำมาใช้กับผู้ที่เบื่ออาหารหรือมีน้ำหนักที่น้อยเกินไป
หลักการทำงานของน้ำมันกัญชา คือการเข้าไปเพิ่มสารในร่างกายที่เรียกว่า “anandamide” ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่จะควบคุมอาการเจ็บปวด และปรับอารมณ์ที่แปรปรวน และใช้รักษา โรคพาร์กินสัน ซึ่งผู้ป่วยมีอาการแขนขาสั่นแบบที่ไม่สามารถควบคุมได้ โดยน้ำมันกัญชาสามารถบรรเทาให้อาการสั่นลดน้อยลงได้
อย่างไรก็ตาม น้ำมันกัญชามีทั้งประโยชน์และข้อควรระวัง เช่น ห้ามใช้ในผู้ที่เคยแพ้กัญชา ผู้ป่วยที่มีโรคหลอดเลือดหัวใจหรือหลอดเลือดสมองที่รุนแรง ผู้ป่วยที่มีภาวะการทำงานของตับหรือไตบกพร่องรุนแรง เป็นต้น
การใช้น้ำมันกัญชา อาจมีผลข้างเคียง เช่น มึนศีรษะ หัวใจเต้นช้า ความดันโลหิตผิดปกติ และอาจทำให้ง่วงซึม จึงเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่ยานพาหนะหรือผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกลหรือทำงานที่เสี่ยงอันตราย
โดยสรุปแม้ว่า น้ำมันกัญชาจะให้ประโยชน์จากสรรพคุณทางยามากมาย ก็ต่อเมื่อผู้ใช้ได้ใช้ในปริมาณที่เหมาะสมและถูกต้องเท่านั้น ทางที่ดีที่สุดควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้ทุกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดจากการใช้น้ำมันกัญชา