กรมชลประทาน เดินหน้าพัฒนาแหล่งน้ำเพิ่มเติมเมืองเพชรบูรณ์ ผุดโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยสะดวงใหญ่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ หวังแก้ไขปัญหาทั้งน้ำท่วมและภัยแล้งให้กับชาวหล่มสัก
วันที่(17 ก.พ. 66 ที่หอประชุมอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ นายปรัชญา ฉายวัฒนา ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธา(ด้านวางแผน) เป็นผู้แทนกรมชลประทาน เข้าร่วมประชุมปัจฉิมนิเทศโครงการศึกษาความเหมาะสมและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอ่างเก็บน้ำห้วยสะดวงใหญ่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมี นายชาครินทร์ อินอิ่มวรปราชญ์ นายอำเภอหล่มสักเป็นประธานการประชุมฯ พร้อมด้วยนายสุชาติ กาญจนวิลัย ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเพชรบูรณ์ ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สื่อมวลชน และประชาชนในพื้นที่ รวมกว่า 120 คน เข้าร่วมประชุมฯ
การจัดการประชุมปัจฉิมนิเทศโครงการศึกษาความเหมาะสมฯ โครงการดังกล่าว เพื่อชี้แจงผลสรุปการศึกษาความเหมาะสมและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการฯ ให้ทุกภาคส่วน ทั้งที่มีส่วนได้เสีย ได้รับทราบ รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อนำข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็นต่างๆ นำไปปรับปรุงและพัฒนาโครงการฯ ให้ตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ให้มากที่สุดต่อไป
สำหรับโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยสะดวงใหญ่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นโครงการตามแนวพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยโครงการนี้เป็นโครงการชลประทานขนาดกลาง บนพื้นที่ลุ่มน้ำห้วยสะดวงใหญ่เป็นลำน้ำสาขาย่อยของลุ่มน้ำสาขาแม่น้ำป่าสักตอนบน มีที่ตั้งหัวงานอยู่บริเวณหมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 2 บ้านท่าอิบุญ ตำบลท่าอิบุญ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ หากโครงการแล้วเสร็จ จะสามารถเก็บกักน้ำได้ประมาณ 13.75 ล้าน ลบ.ม. ส่งน้ำด้วยระบบท่อส่งน้ำให้พื้นที่ชลประทานในช่วงฤดูฝนได้ 8,300 ไร่ และฤดูแล้งได้ประมาณ 2,900 ไร่ คลอบคลุมพื้นที่ 2 ตำบล ได้แก่ ตำบลท่าอิบุญและตำบลห้วยไร่ ของอำเภอหล่มสัก ช่วยบรรเทาปัญหาทั้งน้ำท่วมและภัยแล้ง เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจให้กับประชาชนในพื้นที่ ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในอนาคต
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์สภาพอากาศว่า ในช่วงวันที่ 17 – 18 ก.พ. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ มีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า ส่วนในช่วงวันที่ 19 – 23 ก.พ. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า กับมีลมแรง
สำหรับในช่วงวันที่ 18 – 23 ก.พ. 66 ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อนลง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 18 – 23 ก.พ. 66 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้