ดาวเทียม GISTDA ตรวจพบ ฮอทสปอต ใน อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จำนวนมาก พุ่งพรวดอย่างกะทันหัน คาดว่า เร่งชิงเผาก่อนกำหนดห้ามเผาเด็ดขาดของจังหวัดที่ห้ามเผาตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.2566 เป็นต้นไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายนนี้
เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 กรมควบคุมมลพิษ สรุปสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ประจำวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน แม่ฮ่องสอน) PM2.5 มีค่าระหว่าง 53-264 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ “เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ถึง มีผลกระทบต่อสุขภาพ” (ค่ามาตรฐานเกิน 50 มคก./ลบ.ม.) Hotspot เกิดขึ้นจำนวน 524จุด (เชียงราย 64 จุด เชียงใหม่ 289 จุด แม่ฮ่องสอน 109 จุด และลำพูน 62 จุด)
สำหรับ จ.แม่ฮ่องสอน ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 มีค่าเกินมาตรฐานต่อเนื่องมาแล้ว 5 วัน ส่วนที่ อ.ปาย เกินมาตรฐานต่อเนื่องมาแล้ว 14 วัน
อย่างไรก็ตาม พบว่า ก่อนที่จะมีคำสั่งห้ามเผาของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่กำหนดห้วงเวลาห้ามเผาป่า ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 – 31 เมษายน 2566 พบว่าวันที่ 14 ก.พ.2566 ดาวเทียมได้ตรวจจับจุดความร้อนในพื้นที่ อ.เมือง พุ่งสูงมากผิดปกติ ถึง 29 จุดจากปกติ ไม่เกิน 10 จุด คาดว่ามีการรีบชิงเผาก่อนคำสั่งห้ามเผาของจังหวัด ฯ
สำหรับหน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการดับไฟป่า ทุกแห่งของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังคงเร่งเข้าไปดดับไฟป่าที่เกิดขึ้นจำนวนมาก และมากกว่าครึ่ง เป็นไฟป่าที่เกิดบนเทือกเขาสูง ไม่สามารถดับได้ ส่งผลให้เกิดหมอกควันจากไฟป่าลอยเข้ามาปกคลุมในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ที่มีลักษณะตั้งอยู่ในแอ่งกระทะ มีเทือกเขาสูงล้อมรอบ ประกอบกับความกดอากาศสูง ( หนาว ) ยังแผ่จากจีนลงมาทางตอนเหนือของประเทศไทย ส่งผลให้ค่าปริมาณฝุ่นละอองจากควันไฟป่าลอยปกคลุมหนาทึบและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนโดยรวม