“มนัญญา”สั่งด่านตรวจพืชกรมวิชาการเกษตรยกระดับการควบคุมการนำเข้าพืชและผลิตภัณฑ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตรลงพื้นที่ ย้ำเจ้าหน้าที่เข้มงวดตรวจสอบสินค้าต้องตรงตามรายการสำแดง(License per Invoice) ป้องกันการลักลอบ และสำแดงเท็จ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลผลิตของเกษตรกรภายในประเทศ
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งให้กรมวิชาการเกษตร ยกระดับมาตรการควบคุมการนำเข้าพืชและผลิตภัณฑ์ ที่มีการแจ้งขออนุญาตนำเข้าผ่านทางด่านตรวจพืชของกรมวิชาการเกษตร รวมถึง ป้องกันและเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้า ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบการผลิต ในแปลงของเกษตรกร ปริมาณผลผลิต และกระทบต่อระบบการตลาดสินค้าเกษตรไทย จึงให้ด่านตรวจพืชของกรมวิชาการเกษตรตรวจสอบการนำเข้าพืชและผลิตภัณฑ์อย่างเข้มงวด และต้องทำงานบูรณการกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ในวันที่ 31 มกราคม 2566 นี้ได้ลงพื้นที่ ณด่านตรวจพืชท่าเรือแหลมฉบัง อ. ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ร่วมกับผู้อำนวยการสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร หัวหน้าด่านตรวจพืชท่าเรือกรุงเทพ และด่านตรวจพืชท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อติดตามการปฏิบัติงานการตรวจสอบการนำเข้าสินค้าพืชและผลิตภัณฑ์ ตามนโยบายของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
พืชและผลิตภัณฑ์ ที่มีความเสี่ยงของโรค แมลงศัตรูพืช ที่มีความเสียงสูง ต้องผ่านการวิเคราะห์ความเสี่ยงศัตรูพืช และต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ.2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงประกาศที่เกี่ยวกับการนำเข้า ของกรมวิชาการเกษตร
ปี 2565 ประเทศไทยมีปริมาณการนำเข้าสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ รวมทั้งหมด 438,095 ชิปเมนท์มูลค่าการนำเข้าประมาณ 377,995.010 ล้านบาท กลุ่ม 3 ลำดับแรกที่มีมูลค่าการนำเข้ามากที่สุด ได้แก่เมล็ดถั่วเหลือง กากข้าวโพด ข้าวสาลี
นอกจากสินค้ากลุ่มนี้แล้วการนำเข้ายังมีกลุ่มสินค้าที่มีความเสี่ยงกับราคาผลิตของเกษตร เช่น การนำเข้ามะพร้าว ซึ่งเป็นสินค้าควบคุมตามกฎหมายที่กระทรวงพาณิชย์กำกับดูแล ได้กำหนดด่านนำเข้าเพียง 2 ด่าน คือ ด่านศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง และด่านศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ
โดยใน ปี 2565 มีการนำเข้ารวมประมาณ 139,653 ตัน 1,370 ชิปเมนท์ มูลค่าประมาณ 1,394 ล้านบาท แยกเป็น เวียดนาม 49,042 ตัน459 ชิปเมนท์ มูลค่า 468 ล้านบาท จากอินโดนีเซีย 90,611 ตัน 911 ชิปเมนท์ มูลค่า 926 ล้านบาท
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ได้มอบนโยบายโดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืช เข้มงวดในการปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการนำเข้าสินค้าเกษตรตามนโยบายของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าควบคุม มีความเสี่ยงจะกระทบกับเกษตรกร ระบบการผลิตพืช และสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย
ด่านตรวจพืชของกรมวิชาการเกษตรต้องเข้มงวด กับการสำแดงเอกสารตรงตามรายการสินค้าที่ตรวจปล่อย ตามเงื่อนไขการอนุญาตนำเข้า (License per Invoice) เช่น มะพร้าว หอม กระเทียม เป็นกลุ่มสินค้าควบคุม มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศไทย
ดังนั้น ทุกด่านตรวจพืชต้องเข้มงวดในการควบคุมการนำเข้าภายใต้กฎหมายที่กรมวิชาการเกษตรกำกับดูแล เพื่อป้องกันการลักลอบ และการสำแดงเท็จซึ่งอาจส่งผลต่อราคาผลผลิตของเกษตรกรภายในประเทศ
นายตรวจพืชต้องปฏิบัติหน้าที่ตามเงื่อนไขการนำเข้า ในคู่มือมาตรฐานการปฏิบัติงาน พระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม อย่างเคร่งครัด เต็มความสามารถ
รวมถึงการเพิ่มความสามารถของพนักงานเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบและรับรองสุขอนามัยพืช เช่น ฝึกอบรม และประสานงานร่วมกับหน่วยงานตรวจร่วมกับหน่วยงานศุลกากรอย่างใกล้ชิด ต้องแลกเปลี่ยนข้อมูลใบอนุญาตผ่านระบบ NSW เฝ้าระวังการลักลอบนำเข้า เพื่อป้องกัน ควบคุม เฝ้าระวัง โรค และศัตรูพืชที่อาจจะติดมาก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของศัตรูพืชร้ายแรง ตลอดจนสร้างความเสียหายแก่พืชเศรษฐกิจ และระบบการผลิตพืชของประเทศไทย