ประชุม 3 ฝ่าย รัฐ-โรงงาน-ชาวไร่ เคาะขึ้นราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานอีกกิโลละ 1.75 บาท ดันน้ำตาลทรายขาวเป็น 19 บาทต่อกิโล ส่วนน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ เป็น 20 บาทต่อกิโล ส่วนราคาขายปลีก รอลุ้นโรงงานสรุปอีกครั้ง
รายงานข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 ม.ค.66 โรงงานน้ำตาล ชาวไร่อ้อย และฝ่ายราชการที่เกี่ยวข้องได้ข้อสรุปการปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานอีก 1.75 บาทต่อกิโลกรัม(กก.) ส่งผลให้ราคาน้ำตาลทรายขาวธรรมดาหน้าโรงงาน จากเดิมอยู่ที่ 17.25 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 19 บาทต่อกิโลกรัม และน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์จาก 18.25 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 20 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อใช้กำหนดเป็นราคาคำนวณราคาอ้อยขั้นต้นในฤดูการผลิตปี 2565/66 มีผลในวันนี้ (20 มกราคม2566)
ทั้งนี้การขึ้นราคาหน้าโรงงานครั้งนี้ ฝ่ายโรงงานจะประกาศ โดยแจ้งต่อผู้ซื้อ ส่วนราคาขายปลีกก็จะปรับเปลี่ยนตามไป แต่จะมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่ว่าโรงงานแต่ละแห่งจะมีการตัดราคาหรือดัมพ์ราคาขายกันหรือไม่ด้วย เพราะหากดูราคาขายปลีกปัจจุบันอยู่ที่ 24-25 บาทต่อกิโลกรัม ถือว่าค่อนข้างสูง ท่ามกลางแรงซื้อที่ไม่ได้เติบโตมากนัก
โดยการปรับราคาหน้าโรงงานดังกล่าว เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(สอน.)ได้ลงนามประกาศแล้ว โดยอาศัยอำนาจตามความในข้อ 6 (1) ของประกาศคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(กอน.)เรื่องการจัดทำงบประมาณรายได้ การกำหนดและการชำระค่าอ้อยและค่าผลผลิตน้ำตาลทรายและอัตราส่วนของผลตอบแทนระหว่างชาวไร่และโรงงานพ.ศ.2562 สอน.จึงประกาศราคาน้ำตาลภายในราชอาณาจักร ประจำฤดูการผลิตปี 65/66 ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มไว้เพื่อใช้ประกอบในการคำนวณราคาอ้อยและผลตอบแทนการผลิต และจำหน่ายน้ำตาลทรายฤดูการผลิตปี 65/66
สำหรับราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานที่ปรับขึ้นเป็นไปตามข้อเรียกร้องของฝ่ายชาวไร่อ้อย ที่ระบุว่าต้นทุนการเพาะปลูก และผลิตได้สูงขึ้นมากจากทั้งค่าปุ๋ย ค่าแรง น้ำมัน ฯลฯ ท่ามกลางราคาน้ำตาลทรายดิบตลาดโลกที่จะนำมาคำนวณ ยังทรงตัวในระดับเดิมเฉลี่ย 19 เซ็นต์ต่อปอนด์ ทำให้ราคาอ้อยขั้นต้นไม่สูงมากนัก
ประกอบกับที่ผ่านมาราคาขายปลีกที่แท้จริงได้ปรับตัวสูงไปมากแล้วทำให้ชาวไร่เสียเปรียบในจุดนี้จึงได้นำราคาจริงมาเฉลี่ยเพื่อปรับราคาหน้าโรงงานให้สะท้อนข้อเท็จจริงตามระบบ Cost Plus
อย่างไรก็ตามการกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 65/66 กอน.จะต้องหารือว่า จะนำผลของราคาหน้าโรงงานที่ปรับขึ้น มาคำนวณเป็นราคาอ้อยขั้นต้น หรือจะเป็นขั้นสุดท้ายปี 65/66 อีกครั้ง เนื่องจากขณะนี้โรงงาน 57 แห่งที่อยู่ระหว่างการเปิดหีบ ได้มีการทดลองจ่ายค่าอ้อยบางส่วนไปแล้ว
ซึ่งแม้ราคาหน้าโรงานน้ำตาลที่ปรับขึ้นจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะนำมาคำนวณราคาอ้อยขั้นต้นให้เพิ่มขึ้น แต่ยังต้องดูองค์ประกอบการอื่นๆ อีกด้วย