พาณิชย์ คาดราคาปาล์มขยับ หลังอินโดนีเซียลดส่งออก เพิ่มการใช้ในภาคพลังงาน

กรมการค้าภายในติดตามแนวโน้มสถานการณ์ปาล์มน้ำมันตลาดโลก พบอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกเบอร์หนึ่งโลก สั่งปรับลดสัดส่วนการส่งออก และเพิ่มการใช้น้ำมันปาล์มในภาคพลังงาน คาดส่งผลราคาในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นแน่ แถมส่งผลดีต่อราคาในประเทศของไทยด้วย แนะเกษตรกรอย่าเร่งตัด ขอให้ตัดสุก จะได้น้ำหนักและราคาดีขึ้น ส่วนปัญหารอคิวจบแล้ว หลังลงไปแก้ปัญหา ล่าสุดโรงงานสกัดเปิดรับซื้อทุกโรง

%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B9%8C%E0%B8%A1
คาดราคาปาล์มขยับ

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ติดตามสถานการณ์ปาล์มน้ำมันในตลาดโลกตามนโยบายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้มอบหมายให้ติดตามอย่างใกล้ พบว่า อินโดนีเซียที่เป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออกน้ำมันปาล์มอันดับหนึ่งของโลก ได้ประกาศปรับมาตรการกำกับดูแลการส่งออก จากเดิมที่กำหนดให้จำหน่ายน้ำมันปาล์มในประเทศ 1 ส่วน จึงจะสามารถส่งออกน้ำมันปาล์มได้ 8 ส่วน เป็นให้จำหน่ายน้ำมันปาล์มในประเทศ 1 ส่วนต่อการส่งออกเหลือ 6 ส่วน มีผลตั้งแต่ม.ค.2566 เนื่องจากในช่วงต้นปี ผลผลิตจะออกน้อย และปีนี้คาดว่าจะน้อยกว่าที่คาดการณ์ ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายที่จะปรับสัดส่วนการใช้น้ำมันปาล์มในภาคพลังงานเป็น B35 ที่กำหนดจะเริ่มในเดือนก.พ. 2566 จึงคาดว่าราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลกจะมีแนวโน้มขยับสูงขึ้น และจะส่งผลทำให้ราคาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มในประเทศไทยปรับสูงขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน

“จากแนวโน้มที่อินโดนีเซียปรับลดสัดส่วนการส่งออกน้ำมันปาล์มลงมา และผลักดันให้มีการใช้น้ำมันปาล์มในภาคพลังงานเพิ่มขึ้น จะส่งต่อราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น จากปริมาณซัปพลายที่ลดลง และจะส่งผลต่อเนื่องถึงราคาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มในไทย จึงขอให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มอย่าเร่งตัดปาล์ม ขอให้ตัดปาล์มสุก เพื่อให้ได้น้ำหนักและราคาดีขึ้น”นายวัฒนศักย์กล่าว

นายวัฒนศักย์กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์รถบรรทุกติดคิวหน้าโรงงาน ปัจจุบันได้ผ่อนคลายลงมากแล้ว และจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายในสัปดาห์นี้ หลังจากที่โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มในพื้นที่ภาคใต้ ได้เปิดรับซื้อตามปกติทุกโรงงานแล้ว ส่งผลให้ราคาปาล์มน้ำมันในแหล่งผลิตสำคัญเริ่มปรับตัวสูงขึ้น เฉลี่ยตั้งแต่ 0.10-0.60 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ซึ่งเป็นผลมาจากการที่กรมฯ ได้ลงพื้นที่ไปประชุมหารือ เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกับโรงงานสกัด ลานเท และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนได้ข้อสรุปให้โรงสกัดทุกโรงเปิดรับซื้อและเดินเครื่องเต็มกำลัง และให้แจ้งแผนปรับปรุงปิดโรงงาน ซ่อมเครื่องจักรก่อนล่วงหน้า

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ กรมฯ จะเดินหน้าตรวจสอบสถานการณ์การซื้อขายอย่างใกล้ชิดต่อไป หากพบเห็นผู้ประกอบการโรงสกัดและลานเทรายใด ไม่ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ หรือกดราคารับซื้อ จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด และหากเกษตรกรพบเห็นการกดราคา หรือไม่ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน กรมการค้าภายใน 1569 จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบ และหากพบการกระทำผิด ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ประเด็นการดูแลราคาปาล์มน้ำมัน ว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดรวมทั้งทางจังหวัด กรมการค้าภายในและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ลงไปช่วยแก้ปัญหาสั่งการให้ 1. โรงสกัดน้ำมันปาล์มที่ปิดซ่อมให้รีบซ่อมให้เสร็จและเปิดรับซื้อโดยเร็ว 2. โรงไหนที่ยังไม่ปิดแล้วจะปิด ยังไม่อนุญาตให้ปิดซ่อม ต้องรับซื้อผลปาล์มในทันทีและโรงที่จะต้องปิดซ่อมต่อไปให้ทำแผนการปิดซ่อมแจ้งกระทรวงพาณิชย์และทางผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อพิจารณาอนุญาตเป็นรายกรณี ช่วยทำให้ตอนนี้สถานการณ์คลี่คลายและสั่งการให้ทางจังหวัดและพาณิชย์จังหวัดติดตามสถานการณ์โดยต่อเนื่อง

ถ้าพบโรงสกัดและลานเทที่ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ให้ดำเนินคดีรวมทั้งให้ลงไปดูห้ามใช้กรณีปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นสาเหตุกดราคาปาล์มกับเกษตรกรไม่เช่นนั้นจะดำเนินคดีตามมาตรา 29 ข้อหาสร้างความปั่นป่วนทางด้านราคา มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปีหรือปรับไม่เกิน 140,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว โรงสกัดและลานเทเริ่มกลับมาซื้อผลปาล์ม เกือบเข้าสู่ภาวะปกติคาดว่าในสัปดาห์นี้ทุกอย่างน่าจะเข้าสู่ภาวะปกติได้ แต่ได้สั่งการให้ติดตาม สถานการณ์อีกระยะ เพื่อให้ทุกอย่างไม่เกิดปัญหาให้เกษตรกรขายผลปาล์มได้โดยปกติต่อไป โดยโรงสกัดทั้งหมดมี 131 โรง เปิดดำเนินการและรับซื้อครบแล้วทั้ง 131 โรง