พลจัตวา กฤษณะ ปราสาท บันดารี โฆษกกองทัพเนปาล เปิดเผยว่าทางการเนปาลได้ระงับปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยกลุ่มผู้สูญหายจากเหตุเครื่องบินโดยสารท้องถิ่นพุ่งตกในภูมิภาคตอนกลางของประเทศและจะเริ่มการค้นหาอีกครั้งช่วงเช้าวันจันทร์ (16 ม.ค.)
ปฏิบัติการข้างต้นที่มีทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าร่วมถูกสั่งระงับเมื่อคืนวันอาทิตย์ (15 ม.ค.) ขณะมีการพบร่างผู้เสียชีวิตจากจุดเครื่องบินตก บริเวณหุบเขาแม่น้ำเซติในเขตกัสกี จำนวน 68 รายแล้ว ด้านกองกำลังรักษาความมั่นคงได้ประจำการจุดเกิดเหตุตลอดคืน
เครื่องบินของสายการบิน เยติ แอร์ไลน์ส (Yeti Airlines) พุ่งตกระหว่างบินจากกรุงกาฐมาณฑุไปยังโปขระโดยบรรทุกลูกเรือ 4 คน และผู้โดยสาร 68 คน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นชาวต่างชาติ 15 คน แบ่งเป็นชาวอินเดีย 5 คน รัสเซีย 4 คน เกาหลีใต้ 2 คน และจากออสเตรเลีย ไอร์แลนด์ อาร์เจนตินา และฝรั่งเศสอย่างละ 1 คน
จักนาฐ นิโรวลา โฆษกสำนักงานการบินพลเรือนแห่งเนปาล ปฏิเสธการคาดเดาชะตากรรมของผู้สูญหายอีก 4 ราย และไม่สามารถประกาศการเสียชีวิตของพวกเขาได้หากยังไม่ค้นพบตัว
เปรม นาถ ฐากูร ผู้จัดการทั่วไปของท่าอากาศยานนานาชาติตริภูวันในกรุงกาฐมาณฑุ แถลงว่าเครื่องบินข้างต้นได้รับอนุญาตให้ลงจอดก่อนพุ่งตก โดยสภาพอากาศเมืองโปขระอยู่ในเกณฑ์ดีมากตั้งแต่ช่วงเช้าจึงไม่น่าใช่หนึ่งในสาเหตุของเหตุการณ์ครั้งนี้ ขณะนักบินไม่ได้รายงานปัญหาทางเทคนิคเช่นกัน พร้อมเสริมว่าในบรรดาผู้โดยสารบนเที่ยวบิน ยังมีเด็ก 3 คน และทารก 3 คน
อับดุล ข่าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม การค้า และการจัดหา กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีเนปาลประกาศการไว้อาลัยทั่วประเทศในวันจันทร์(16 ม.ค.) และมีมติจัดตั้งคณะกรรมการ 5 คน เพื่อสอบสวนสาเหตุของอุบัติเหตุดังกล่าว
ทั้งนี้ เนปาลรายงานการเกิดอุบัติเหตุทางอากาศบ่อยครั้ง เนื่องจากผู้คนมักเลือกโดยสารเครื่องบินแทนการเดินทางทางบกที่มีสภาพเส้นทางไม่ดีเพราะภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยภูเขา โดยในเดือนพฤษภาคม2022 เครื่องบินแบบทวิน ออตเตอร์ ที่ให้บริการโดยทารา แอร์ (Tara Air) ประสบเหตุตกในเขตมัสแตงและส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 22 ราย
ขอบคุณข้อมูล/ภาพ จาก : สำนักข่าวซินหัว(Xinhua)