ธ.ก.ส.โอนเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวผ่านโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวและโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2565/66 อีก 171.71 ลบ. มีผู้ได้รับประโยชน์จำนวน 38,004 ครัวเรือน วันนี้(4 ม.ค.)
นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 และมติคณะกรรมการ ธ.ก.ส. เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 เห็นชอบให้ ธ.ก.ส. ดำเนินมาตรการช่วยเหลือและยกระดับรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวผ่านโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 และโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 ซึ่ง ธ.ก.ส. ได้เริ่มทยอยโอนเงินให้เกษตรกร ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 ประกอบไปด้วย โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 (โครงการไร่ละพัน) เป็นเงินกว่า 53,491 ล้านบาท ซึ่งมีผู้ได้รับประโยชน์จำนวน 4.63 ล้านครัวเรือน และโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 งวดที่ 1 – 10 เป็นจำนวนเงินกว่า 7,762.57 ล้านบาท ซึ่งมีผู้ได้รับประโยชน์จำนวน 2.70 ล้านครัวเรือน
และในวันนี้(4 ม.ค.66)ธ.ก.ส. ได้ทำการโอนเงินช่วยเหลือเกษตรกรผ่านมาตรการช่วยเหลือและยกระดับรายได้เกษตรกร ผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 แก่เกษตรกรอีกกว่า 38,004 ครัวเรือน เป็นจำนวนเงิน 171.71 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 (โครงการไร่ละพัน) ครั้งที่ 5 เป็นเงินกว่า 130.53 ล้านบาท ซึ่งมีผู้ได้รับประโยชน์จำนวน 17,284 ครัวเรือน และโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 งวดที่ 12 และงวดที่ 1 – 11 (เพิ่มเติม) เป็นเงินกว่า 41.18 ล้านบาท และมีผู้ได้รับประโยชน์จำนวน 20,720 ครัวเรือน
เกษตรกรสามารถตรวจสอบผลการโอนเงินได้ทางแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile และ A-Mobile Plus ตลอด 24 ชั่วโมงและจะมีข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีผ่าน LINE Official BAAC Family กรณีที่ลูกค้าสมัครใช้บริการ BAAC Connect รวมถึงสามารถเบิกถอนเงินสดผ่านตู้ ATM ของ ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ สำหรับเกษตรกรที่มีข้อสอบถามเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวนี้ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ Call Center 02 555 0555
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกร ธ.ก.ส.ยืนยันว่าไม่มีการหักหนี้แต่อย่างใด ซึ่ง ธ.ก.ส. ส่วนกลางได้กำชับ ธ.ก.ส.สาขาในพื้นที่ไม่ให้หักเงินเกษตรกรไปเรียบร้อยแล้ว และยังได้เร่งทำความเข้าใจกับเกษตรกรโดยมีผู้แทนเกษตรกรช่วยประชาสัมพันธ์ข้อมูลอีกทางหนึ่งด้วย
สำหรับผลการจ่ายเงินชดเชยส่วนต่าง ที่ผ่านมาธ.ก.ส. ได้จ่ายเงินส่วนต่างให้เกษตรกรไปแล้ว ในงวดที่ 1-11 สำหรับเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวภายในวันที่ 23 ธ.ค.2565 จำนวน 2.558 ล้านครัวเรือน โดยการโอนเงินชดเชยส่วนต่างให้เกษตรกรที่ผ่านมามีกรณีโอนเงินไม่สำเร็จจากปัญหาด้านบัญชีเงินฝาก ซึ่งจากการติดตามของ ธ.ก.ส. พบว่า ได้มีการแก้ไขปัญหาไประดับหนึ่งแล้ว ทำให้ยอดการโอนเงินให้เกษตรกรไม่สำเร็จลดลง แต่ ธ.ก.ส.ขอให้เกษตรกรตรวจสอบบัญชีเงินฝากและติดต่อกับ ธ.ก.ส เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการรับเงินชดเชยส่วนต่างตามโครงการ เช่น กรณีปัญหา ชื่อ–สกุล ไม่ตรง บัญชีปิด บัญชีถูกอายัด หรือหากยังไม่มีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. ขอให้เกษตรกรติดต่อเปิดบัญชีใหม่กับ ธ.ก.ส. สาขาในพื้นที่ เพื่อ ธ.ก.ส. จะได้ดำเนินการโอนเงินให้แก่เกษตรกรได้ต่อไป