นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2564/2565 จากที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ขออนุมัติการดำเนินโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2564/2565 ต่อคณะรัฐมนตรี ไปแล้วนั้น ทางคณะรัฐมนตรี ได้พิจารณาแล้วมีมติว่า เพื่อให้เกิดความรอบคอบและชัดเจนต่อการดำเนินโครงการฯ ที่จะเกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรชาวสวนลำไยที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์มากที่สุด จึงขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวบรวมรายละเอียดข้อมูล และข้อคิดเห็นเพิ่มเติมจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการพิจารณา
ล่าสุด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ได้ดำเนินการรวบรวมรายละเอียดข้อมูลโครงการและประสานงานกับหน่วยงานเพื่อให้ข้อคิดเห็นเพิ่มเติม ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณเรียบร้อยแล้ว และขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตรได้นำข้อคิดเห็นจากทุกหน่วยงานมาดำเนินการปรับปรุงโครงการให้มีความสอดคล้องตามข้อคิดเห็นดังกล่าว โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะได้นำเสนอเข้าคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสืบเนื่องจากกรณีกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกลำไย 8 จังหวัดภาคเหนือ รวมตัวยื่นข้อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีช่วยเร่งรัดการจ่ายค่าชดเชยหลังขาดทุนมากว่า 2 ปี เนื่องจากมีพ่อค้าคนกลางกำหนดราคาซื้ออย่างไม่เป็นธรรมส่งผลให้ผลผลิตราคาตกต่ำ จึงได้เรียกร้องให้ภาครัฐช่วยเหลือเกษตรกรกลุ่มดังกล่าว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและแก้ไขปัญหาโครงสร้างราคาให้มีความเหมาะสม
ต่อมากรมส่งเสริมการเกษตรในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ได้ดำเนินการจัดทำโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2564/2565 เสนอต่อคณะรัฐมนตรี โดยเสนอแนวทางให้มีขนาดพื้นที่ปลูกรายละไม่เกิน 25 ไร่ ในอัตรา 2,000 บาทต่อไร่ กรอบวงเงิน 3,821.54 ล้านบาทและมาตรการช่วยเหลือเยียวยาด้านอื่น ๆ เช่น มาตรการช่วยเหลือด้านสินเชื่อ ด้านหนี้สินและดอกเบี้ยโดย ธกส.เป็นต้น, เป็นเกษตรกรชาวสวนลำไยที่ผ่านการขึ้นทะเบียนเกษตรกร ปี 2564 กับกรมส่งเสริมการเกษตรเรียบร้อยแล้ว ตัดยอดข้อมูล (31 พ.ค. 65) ซึ่งปลูกลำไยที่ให้ผลผลิตโดยใช้เกณฑ์อายุต้น 5 ปีขึ้นไป แต่ทางคณะรัฐมนตรี ได้พิจารณาแล้วมีมติว่าเพื่อให้เกิดความรอบคอบ ชัดเจนต่อการดำเนินโครงการฯ ที่จะเกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรชาวสวนลำไยที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์มากที่สุด จึงขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวบรวมรายละเอียดข้อมูลและข้อคิดเห็นเพิ่มเติมจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการพิจารณาอีกครั้ง
สำหรับฤดูกาลผลิตที่ 2/2565 (กรกฎาคม – ตุลาคม) สถานการณ์ลำไยภาคเหนือ มีผลผลิตรวมทั้งสิ้น 742,563 ตัน แบ่งเป็นกระจายผลผลิตภายในประเทศ จำนวน 138,677 ตัน หรือร้อยละ 18.68 ผ่านวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตร Modern Tradeตลาดออนไลน์ และตลาดผลไม้ภายในจังหวัด เป็นต้น อีกทั้งยังมีการแปรรูป ทั้งลำไยอบแห้งทั้งเปลือก ลำไยอบแห้งเนื้อสีทอง และอื่น ๆ เช่น ลำไยกระป๋อง และน้ำลำไยสกัดเข้มข้น จำนวน 511,434 ตัน หรือร้อยละ 68.87 และส่งออก จำนวน 92,451 ตัน หรือร้อยละ 12.45