นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ชี้แจง “โครงการสานฝันสร้างอาชีพ ยกระดับรายได้เกษตรกร” ณ แปลงสาธิตปลูกฟักทอง บ้านสว่าง บ้านซำโอง ต.ห้วยเตย อ.ชำสูง จ.ขอนแก่น เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรได้มีเงินทุนในการสร้างงานสร้างอาชีพ ประกอบอาชีพเกษตรกรรมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กระทรวงเกษตรฯ จะทำการเข้าส่งเสริมเกษตรกรในการประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรม (พืช ปศุสัตว์ ประมง) ที่มีตลาดรองรับชัดเจน หรือการประกอบอาชีพนอกภาคการเกษตรที่มีลักษณะเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ เพื่อเลี้ยงชีพในครัวเรือน ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่ ธ.ก.ส.สาขาใกล้บ้าน
นอกจากนี้ นายประภัตร ยังลงพื้นที่รับฟังปัญหาปริมาณน้ำที่ใช้เพื่อการทำเกษตรกรรม และเพื่ออุปโภค-บริโภคไม่เพียงพอพร้อมเร่งสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนนี้ ณ หนองฝายบักโค้ง ต.หนองกุงใหญ่ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมมาช้านาน เนื่องจากพื้นที่ของประเทศไทยนั้นมีภูมิประเทศและสภาพอากาศที่เหมาะกับการทำเกษตรกรรมหลายรูปแบบ รวมถึงทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์อยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากที่ใช้ในการทำการเกษตรทุกประเภท การปลูกพืชผัก ผลไม้ และทำนาข้าว ซึ่งเป็นอาหารหลักของคนในประเทศ มีความต้องการใช้น้ำในปริมาณมาก
โดยปริมาณน้ำที่ใช้เพื่อการเพาะปลูกก็จะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำที่พืชชนิดนั้นต้องการ และในแต่ละช่วงเจริญเติบโตของพืชก็ยังต้องการน้ำไม่เท่ากันอีกด้วย เกษตรกรจึงต้องวางแผนบริหารจัดการน้ำและพัฒนาแหล่งน้ำให้เหมาะสม เพื่อป้องกันปัญหาการขาดแคลนน้ำ
นอกจากจะต้องมีน้ำสำหรับอุปโภค-บริโภคของคนแล้ว สัตว์ที่เกษตรกรเลี้ยงก็ต้องการน้ำเช่นกัน โดยวัวและควายต้องการน้ำตัวละประมาณ 50 ลิตรต่อวัน หมูตัวละประมาณ 20 ลิตรต่อวัน ไก่ตัวละประมาณ 0.15 ลิตรต่อวัน เป็นต้น
ในพื้นที่เลี้ยงสัตว์ที่อยู่ห่างไกลจากแหล่งน้ำ หรือประสบปัญหาขาดแคลนน้ำเป็นประจำ ต้องมีการบริหารจัดการน้ำที่ดี เพื่อให้มีน้ำเพียงพอต่อการเลี้ยงสัตว์ทุกตัว
ในการทำเกษตรทั้งการเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ และเลี้ยงปลานั้นจำเป็นต้องใช้น้ำในปริมาณมาก และต้องมีการบริหารจัดการน้ำ รวมถึงการพัฒนาแหล่งน้ำที่ดีเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำ ที่จะทำให้ผลผลิตที่ได้น้อยหรือเสียหายได้
สำหรับโครงการสานฝันสร้างอาชีพ ยกระดับรายได้เกษตรกร ก่อนหน้านี้ รมช.เกษตรฯประภัตร ได้เคยเตือนเกษตรกรระวังการแอบอ้างหาผลประโยชน์“โครงการสานฝันสร้างอาชีพ และยกระดับรายได้เกษตรกร” ถือเป็นการหลอกลวงประชาชน พร้อมสั่งเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอย่างเข้มข้นทั่วทุกพื้นที่ของประเทศ
โดยนายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กล่าวถึงกรณีสถานการณ์จังหวัดในพื้นที่ปศุสัตว์เขต 3 ได้แก่ นครราชสีมา บุรีรัมย์ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ ยโสธร อำนาจเจริญ ชัยภูมิ ได้มีกลุ่มบุคคล/บริษัทแห่งหนึ่ง ที่ดำเนินการขายผลิตภัณฑ์ด้านเกษตร มีการเชิญชวนเกษตรกรเข้าร่วมอบรมโดยแอบอ้างโครงการสานฝันสร้างอาชีพและยกระดับรายได้เกษตรกร พร้อมทั้งให้เกษตรกรลงทะเบียนและแจ้งเก็บเงินค่ามัดจำ จำนวน 6,500 บาท เพื่อแลกผลิตภัณฑ์ของบริษัทมูลค่า 40,000 บาทโดยจะเก็บเงินอีก 20,000 บาทเมื่อเกษตรกรกู้เงินจาก ธ.ก.ส. ผ่านแล้ว ซึ่งเป็นการแสวงหาผลประโยชน์เข้าข่ายหลอกลวงประชาชน
นายประภัตร ในฐานะที่กำกับดูแลกรมปศุสัตว์ และโครงการสานฝันสร้างอาชีพ ยกระดับรายได้เกษตรกร ได้ชี้แจงเรื่องนี้ด้วยว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการของรัฐ ไม่ได้ทำข้อตกลงหรือความร่วมมือกับกลุ่มบุคคล/บริษัทใดบริษัทหนึ่ง ให้เข้ามาช่วยเหลือ และเรียกเก็บค่ามัดจำล่วงหน้าใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นเรื่องผิดกฏหมาย ต้องขอเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรฯ ในพื้นที่ต่าง ๆ ช่วยกันเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น หากพบการกระทำความผิดให้รีบแสดงตัวชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินโครงการสานฝันฯให้กับประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ และแนะนำขั้นตอนกระบวนการทางกฏหมาย เพื่อเอาผิดกับผู้กระทำความผิดทันที