อินโดนีเซียเริ่มใช้ ‘วีซ่าบ้านหลังที่สอง’ ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ

อินโดนีเซียเริ่มต้นบังคับใช้ “วีซ่าบ้านหลังที่สอง” (Second Home Visa) ซึ่งอนุญาตชาวต่างชาติพำนักอาศัยอยู่ในประเทศเป็นระยะเวลา 5 หรือ 10 ปี ตั้งแต่วันพุธ (21 ธ.ค.) 

โดยญาซอนนา ลาวลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกฎหมายและสิทธิมนุษยชนของอินโดนีเซีย เผยว่าวีซ่านี้มุ่งดึงดูดนักธุรกิจและนักลงทุนจากทั่วโลกมาทำธุรกิจในอินโดนีเซีย

แถลงการณ์จากลาวลีระบุว่าชาวต่างชาติสามารถยื่นคำร้องหนึ่งครั้งเพื่อขอวีซ่าหนึ่งฉบับ ใบอนุญาตพำนักแบบจำกัด (Limited Stay Permit) หนึ่งฉบับ และใบอนุญาตกลับเข้าประเทศ (Re-Entry Permit) หนึ่งฉบับพร้อมกัน โดยพวกเขาจะได้รับใบอนุญาตพำนักบ้านหลังที่สอง (Second-Home Stay Permit) โดยอัตโนมัติ เมื่อเข้าสู่ดินแดนอินโดนีเซียผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง

สำหรับผู้ที่ไม่ใช่พลเมืองอินโดนีเซียหรือผู้ค้ำประกันสามารถยื่นขอวีซ่าบ้านหลังที่สองผ่านแอปพลิเคชันบนเว็บไซต์สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอินโดนีเซีย

D4C8AA8E EC6B 4EEA 9074 ABE99F0257A0

ผู้ยื่นขอวีซ่าบ้านหลังที่สองจะต้องแสดงหลักฐานการเงิน มูลค่า 2 พันล้านรูเปียห์ (ราว 4.4 ล้านบาท) หรือสิทธิการครอบครองทรัพย์สินในอินโดนีเซีย โดยพวกเขาต้องแสดงหลักฐานการเงินที่ออกโดยธนาคารของรัฐหรือใบรับรองสิทธิการครอบครองทรัพย์สินต่อเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานฯ ภายใน 90 วัน นับจากวันที่ออกใบอนุญาตพำนักบ้านหลังที่สอง

นอกจากนั้นผู้ยื่นขอวีซ่าบ้านหลังที่สองจะต้องชำระค่าธรรมเนียมที่เป็นรายได้อันไม่ใช่ภาษีของรัฐ จำนวน3 ล้านรูเปียห์ (ราว 6,679 บาท) ซึ่งสามารถชำระนอกอาณาเขตอินโดนีเซียผ่านระบบชำระเงินออนไลน์ของรายได้อันไม่ใช่ภาษีของรัฐ

ทั้งนี้ ลาวลีเผยว่านโยบายนี้จัดทำขึ้นเพื่อรองรับชาวต่างชาติจำนวนมากที่ย้ายถิ่นฐานมายังอินโดนีเซียตามวัตถุประสงค์และการดำเนินกิจกรรมต่างๆ

ขอบคุณข้อมูล/ภาพ จาก : สำนักข่าวซินหัว(Xinhua)