ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อนุญาตให้ MR. LIU JINXIN ประธานสถาบันวิจัยคุนหมิง China Kunming South Asia & Southeast Asia International Logistics Research Institute (SSILR) นายสุวิทย์ รัตนจินดา ประธานสมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย และคณะผู้ให้บริการโลจิสติกส์ จากสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าพบ เพื่อหารือในประเด็นระบบการบริหารจุดตรวจปล่อย CIQ (Customs Immigration Quarantine) และการขนส่งสินค้าเกษตรจากไทยผ่านลาวไปยังประเทศจีน ด้วยระบบขนส่งทางรถไฟ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการดำเนินงานด้านโลจิสติส์ร่วมกัน โดยมีนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายธนา ชีรวินิจ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการเกษตรและสหกรณ์ นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรฯมีนโยบายในการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ด้านการเกษตร โดยมีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพโลจิสติกส์ภาคการเกษตร ภายใต้วิสัยทัศน์ “ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์เกษตรของภูมิภาคอาเซียน” ซึ่งตลอดระเวลาเวลาที่ผ่านมากระทรวงเกษตรฯ ให้ความสำคัญในประเด็นการค้าและการเปิดตลาดการค้าสินค้าเกษตรกับจีนอย่างมาก เนื่องจากเป็นตลาดนำเข้าสินค้าเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขณะเดียวกันก็เป็นตลาดที่ทรงอิทธิพลและมีอำนาจในการต่อรองสูง จึงเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายของสินค้าเกษตรและอาหารของไทย ซึ่งระบบโลจิสติกส์เป็นหัวใจสำคัญของการขนส่งสินค้าเกษตร จึงมอบหมายให้นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประสานการทำงานทุกระดับเพื่อขยายความร่วมมือและเร่งผลักดันขยายมูลค่าและปริมาณการส่งออกสินค้าเกษตรฯ ไทยไปจีน ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมให้การสนับสนุนและยินดีในความร่วมมือกับจีนในการเดินหน้าร่วมกันผลักดันการนำเข้า-ส่งออก สินค้าเกษตรต่อไปในอนาคต
ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า สำหรับการประชุมหารือกันในวันนี้ร่วมกับคณะผู้ให้บริการโลจิสติกส์จีน ได้มีความเห็นพ้องต้องกันในประเด็นสำคัญ อาทิ 1) การเพิ่มจำนวนขบวนรถไฟ และการทำระบบการจองขบวนรถไฟจากจีน เพื่อเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าให้มากขึ้น และต้องลดต้นทุนให้ถูกว่าการขนส่งทางรถ 2) การพัฒนาระบบการบริหารจุดตรวจปล่อย CIQ (Customs Immigration Quarantine) จีน – ลาว โดยมีความเห็นร่วมกันว่าควรใช้โมเดลด่านตรวจพืชที่ประสบความสำเร็จ เช่น ด่านตรวจพืชลาดกระบัง เพื่อให้เป็นด่านตรวจที่เบ็ดเสร็จเกิดความรวดเร็ว และ 3) บริษัทจากประเทศจีนมีความสนใจต้องการนำเข้าสินค้าเกษตรกว่า 1 แสนตัน โดยเฉพาะปลาแช่แข็ง ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ มีความพร้อมด้านการประมง จึงเป็นโอกาสสำคัญที่จะขยายการส่งออกสินค้าประมงของไทยไปตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่ นอกจากนี้เส้นทางรถไฟลาว – จีน ถือเป็นเส้นทางสำคัญสำหรับการค้าระหว่างประเทศด้วยระบบโลจิสติกส์ ในการขนส่งสินค้าต่าง ๆ โดยเฉพาะสินค้าเกษตรจากไทยไปสู่จีน และจะขยายไปยังเอเชียกลาง ตะวันออกกลาง และยุโรป ถือเป็นเส้นทางโอกาสแห่งอนาคต โดยจะบูรณาการทำงานเชิงรุกร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนอย่างเต็มกำลัง
ทั้งนี้ คณะผู้ให้บริการโลจิสติกส์จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ถือเป็นคณะแรกจากจีนที่เดินทางมาเยือนไทย ภายหลังจากเส้นทางรถไฟ ไทย ลาว จีน เปิดอย่างเป็นทางการ โดยทางจีนได้แสดงความพึงพอใจในการหารือร่วมกันและพร้อมให้ความร่วมมือ โดยจะนำผลการหารือในครั้งนี้ไปรายงานต่อรัฐบาลจีนต่อไป
สำหรับระบบการบริหารจุดตรวจปล่อย CIQ (Customs Immigration Quarantine) ปัจจุบันมีพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดในการกักกันโรคและตรวจสอบสำหรับการส่งออกและนำเข้าผลไม้ผ่านประเทศที่สามระหว่างไทยและจีน โดยมีสาระสำคัญในการระบุจุดนำเข้าและจุดส่งออกผลไม้ของแต่ละประเทศในภาคผนวก โดยไม่จำกัดเส้นทางในการขนส่งผลไม้ระหว่างกัน โดยได้ลงนามร่วมกันผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2564 และกำหนดจุดนำเข้าและส่งออกผลไม้ ระหว่างไทยและจีนที่เป็นปัจจุบัน มีทั้งสิ้น 16 ด่าน
โดยมีด่านนำเข้า-ส่งออกของจีน ประกอบด้วย 1) โหย่วอี้กว่าน 2) โม่ฮาน 3) ตงซิง 4) ด่านรถไฟผิงเสียง 5) ด่านรถไฟโม่ฮาน (มีการขนผลไม้ล็อตแรก 3 ธ.ค. 65) 6) เหอโข่ว (เอกชนจีนอยู่ระหว่างการเตรียมจัดซื้อและจัดการด้านโลจิสติกส์ในการขนส่งผลไม้ไทย) 7) ด่านรถไฟเหอโข่ว (ยังไม่สามารถรับผลไม้จากไทย) 8) หลงปัง (ยังไม่สามารถรับผลไม้จากไทย) 9) เทียนเป่า (ยังไม่สามารถรับผลไม้จากไทย) และ 10) สุยโข่ว (ยังไม่สามารถรับผลไม้จากไทย) ส่วนด่านนำเข้า-ส่งออกของไทย ประกอบด้วย 1) เชียงของ 2) มุกดาหาร 3) นครพนม 4) บ้านผักกาด 5) บึงกาฬ และ 6) หนองคาย
ส่วนความคืบหน้าการขนส่งสินค้าเกษตรจากไทยผ่านลาวไปจีนด้วยระบบราง เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ด่านรถไฟโม่ฮาน ได้ถูกบรรจุอยู่ในรายชื่อสถานที่ควบคุมตรวจสอบผลไม้นำเข้า (List of Designated Supervision Sites for Imported Fruits) ของ GACC แล้ว โดยในวันที่ 3 ธันวาคม 2565 (ครบรอบ 1 ปีการเปิดให้บริการเส้นทางรถไฟลาว-จีน) ได้มีการขนส่งสินค้าผลไม้ผ่านทางเส้นทางรถไฟดังกล่าว โดยมีกิจกรรมพิธีต้อนรับขบวนรถไฟขนส่งผลไม้ขบวนแรกผ่านด่านรถไฟโม่ฮาน โดยเบื้องต้นแจ้งว่ามีกล้วยจากลาว 13 ตู้และผลไม้ไทย จำนวน 12 ตู้ (ลำไย 8 ตู้และทุเรียน 4 ตู้) รวมทั้งหมด 25 ตู้คอนเทนเนอร์ มีน้ำหนักรวม 543 ตัน แบ่งเป็นกล้วยลาว 351 ตัน ลำไยไทย 154 ตัน และทุเรียนไทย 38 ตัน