มีรายงานว่า พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ได้แจ้งความคืบหน้าว่า “เรือหลวงสุโขทัย”ได้จมลงแล้ว ขณะกำลังลาดตระเวนอยู่บริเวณแบริ่ง 090 ระยะ 20 ไมล์ จากท่าเรืออำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังประสบเหตุเรือมีอาการเอียง เนื่องจากเผชิญกับคลื่นลมแรง จนน้ำเข้าเรือ หลังพยายามที่จะเข้ากอบกู้สถานการณ์ตั้งแต่ช่วงค่ำ แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากคลื่นลมที่ยังคงแรงมาก ส่วนกำลังพลบนเรือ ถูกลำเลียงขึ้นบนเรือหลวงกระบุรีและทยอยพาเข้าฝั่ง
สำหรับในพื้นที่มีเรือที่ทำการช่วยเหลือ จำนวน 5 ลำ ประกอบด้วย เรือหลวงกระบุรี เรือประจวบ 4 (เรือTug) เรือประจวบ 5 (เรือ Tug) เรือ Star Energy (เรือน้ำมัน) เรือศรีชัยยา(เรือน้ำมัน)
และเมื่อเวลา 04.00 น. กองทัพเรือ ได้จัดส่งเรือหลวงภูมิพล เรือหลวงอ่างทอง รวมทั้ง ฮ.ซีฮอล์ค เข้าไปเสริมเพื่อช่วยเหลือกำลังพลที่ลอยคออยู่ในทะเล เบื้องต้นสามารถช่วยกำลังพล ขึ้นมาได้ 78 คน จาก 106 คน ก่อนนำขึ้นที่ท่าเรือน้ำลึก อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีการเตรียมพร้อม รถพยาบาล และรถของมูลนิธิ กว่า 30 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล
เบื้องต้น มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 คน มีอาการขาหักและเสียเลือดมาก และบาดเจ็บเล็กน้อย โดยในชุดแรก มีกำลังพลบาดเจ็บรวม 43 คน นำส่งโรงพยาบาลต่าง ๆ ในพื้นที่ เพื่อทำการตรวจรักษาต่อไป
โดยยังคงเหลือเรืออีก 4 ลำในพื้นที่ เพื่อค้นหากำลังพลที่เหลืออีก 28 คน ส่วนเรือหลวงอ่างทอง คาดว่าจะเดินทางถึงพื่นที่เวลา 0600 น.
ด้าน พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงว่า กรณีเรือหลวงสุโขทัยมีอาการเอียงเนื่องจากขณะนั้นมีคลื่นลมแรง จนทำให้มีน้ำทะเลบางส่วนไหลเข้าระบบเครื่องไฟฟ้า ผ่านท่อไอเสียข้างเรือ จนทำให้เครื่องไฟฟ้าดับ และส่งผลต่อเครื่องจักรใหญ่หยุดทำงาน เป็นเหตุให้ไม่สามารถควบคุมเรือได้ และทำให้น้ำเข้าภายในตัวเรืออย่างรวดเร็ว จนทำให้เรือเอียง และอับปางลงในเวลาต่อมา
สำหรับเรือหลวงสุโขทัย มีภารกิจที่ต้องเดินทางไปร่วมงานจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือ “องค์บิดาของทหารเรือไทย” เนื่องในโอกาสครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี ที่บริเวณศาลกรมหลวงชุมพรฯ จ.ชลบุรี