ป.ป.ช. เปิดเซฟ “นราพัฒน์ แก้วทอง” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สมัยเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ พบแจ้งยอด 1.5 พันล้าน แต่ตรวจสอบพบ 206 ล้าน รวยขึ้น 8 ล้าน หลังเป็น ส.ส. 3 เดือน
วันที่ 13 ธ.ค. 2565 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ นายนราพัฒน์ แก้วทอง กรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2565
โดย นายนราพัฒน์ พร้อมด้วยนางอุมาพร แก้วทอง คู่สมรส พร้อมด้วยบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะแจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 1,547,196,953 บาท แต่จากการตรวจสอบตามรายการทรัพย์สินที่แจ้ง พบว่ามีทรัพย์สินประมาณ 206,196,952 บาท หนี้สิน 6,392,586 บาท
โดยแบ่งเป็นทรัพย์สินของนายนราพัฒน์ 195,358,101 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 366,738 บาท เงินลงทุน 5,000,000 บาท เป็นหุ้นในบริษัทสหกรณ์สุราษธานี จำกัด เงินให้กู้ยืม 149,000,000 บาท โดยระบุชื่อผู้กู้ คือ น.ส.พัชราภรณ์ แก้วทอง น้องสาวนายนราพัฒน์ ที่ดิน 7 รายการ มูลค่า 25,142,500 บาทโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 7 รายการ มูลค่า 9,466,453 บาท ยานพาหนะ 1,059,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 2,182,410 บาท
ทรัพย์สินอื่น 3,111,000 บาท หนี้สิน 5,892,586 บาท ทรัพย์สินคู่สมรส 8,119,901 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 366,738 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 765,650 บาท ยานพาหนะ 2,200,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 142,790 บาท ทรัพย์สินอื่น 4,924,500 บาท หนี้สิน 500,000 บาท ส่วนบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สินเป็นเงินฝาก และสิทธิและสัมปทาน รวม 2,718,950 บาท
โดยทรัพย์สินที่น่าสนใจของ นายนราพัฒน์และคู่สมรส อาทิ พระเลี่ยมทองสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ฐานแซมมูลค่า 800,000 บาท พระเลี่ยมทองปิดตาหลวงปู่เอี่ยม 300,000 บาท พระเลี่ยมทองหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน 400,000 บาท สร้อยคอทองคำ 2 เส้น สร้อยข้อมือทองคำ นาฬิกายี่ห้อ Chanel Dior มูลค่า250,000 บาท
กระเป๋า Chanel มูลค่า 250,000 บาท กระเป๋า Dior มูลค่า 250,000 บาท สร้อยคอมรกตล้อมเพชร มูลค่า1,200,000 บาท สร้อยข้อมือฝังเพชร เป็นต้น อย่างไรก็ตาม นายนราพัฒน์ แจ้งว่ามีรายได้ต่อปี 600,000 บาท รายจ่ายต่อปี 262,120 บาท คู่สมรสแจ้งว่ามีรายได้ต่อปี 286,800 บาท รายจ่ายต่อปี 121,395 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเปรียบเทียบทรัพย์สินนายนราพัฒน์และคู่สมรส เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2565 ที่แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 197,258,364 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 4,868,560 บาท เท่ากับว่า นายนราพัฒน์และคู่สมรส มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 8,938,588 บาท หนี้สินเพิ่มขึ้น 1,524,026 บาท
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนราพัฒน์ แก้วทอง อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ชี้แจง กรณีป.ป.ช. เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยพบ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น จากกรณีเข้ารับตำแหน่ง มากถึง 1,350 ล้านบาท
โดยนายนราพัฒน์ ยืนยันว่า ทรัพย์ของตนเองเพิ่มขึ้นจากเดิมไม่มาก ซึ่งอย่างที่ ป.ป.ช.เปิดเผย ตนไม่ทราบว่ามีส่วนใดผิดพลาด ถึงได้มีตัวเลขสูงขนาดนั้น ยืนยันว่า ตัวเลขที่แจ้งกรณีพ้นจากตำแหน่งไม่ได้ต่างจาก กรณีเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งกรณีเข้ารับตำแหน่ง ได้แจ้งบัญชีทรัพย์ 197 ล้านบาท
นายนราพัฒน์ ยืนยันว่า ที่ผ่านมาตน ยื่นบัญชีทรัพย์สินมาแล้ว 3 ครั้ง ตัวเลขตามข้อเท็จจริงประมาณนี้มาตลอด หลังเห็นข่าวก็รู้สึกตกใจ เพราะถ้ารวยขนาดนั้นคงจะดี โดยหลังจากนี้จะประสานไปยังสำนักงานป.ป.ช. ว่ามีข้อมูลผิดพลาดอย่างไร
ด้านนายศักดิ์ชัย จันทร์แสงวัฒนา ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบทรัพย์สินภาคการเมือง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการยื่นบัญชีทรัพย์สินของนายนราพัฒน์ แก้วทอง กรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 26 ส.ค.65 ที่ได้แจ้งไว้ว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 1,547,196,952 บาท แต่เมื่อตรวจสอบรายละเอียดจริงพบว่า มีเพียง 206,196,952 บาท นั้น ว่า ประเด็นที่ตัวเลขคลาดเคลื่อน เป็นเรื่องของผู้ยื่นซึ่งป.ป.ช.ยังไม่ได้มีการตรวจสอบ เนื่องจากเป็นไปตามขั้นตอนของ ป.ป.ช. ที่เมื่อผู้ยื่นฯ ยื่นบัญชีทรัพย์สินมาแล้ว กฎหมายกำหนดให้เปิดเผยตัวบัญชีที่ผู้ยื่นฯยื่นมานั้นภายใน 30 วัน คือจะต้องประกาศเปิดเผยก่อนเสร็จแล้วจึงเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ เพราะฉะนั้นอาจจะเป็นเรื่องของตัวเลขที่ยังไม่ได้ผ่านการตรวจสอบ
“จากนี้ป.ป.ช.ต้องตรวจสอบบัญชีนี้เลย ตามบัญชีที่พ้นตำแหน่ง เราก็จะต้องมีการเปรียบเทียบบัญชีเข้าด้วยอยู่แล้ว แต่อันนี้เรายังไม่ได้ทำอะไร ซึ่งถ้าเกิดพบข้อผิดปกติจริงๆ ก็ต้องให้เจ้าตัวมาชี้แจงว่ามีความคลาดเคลื่อน หรือปกปิดอะไร ก็จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบปกติ อย่างไรก็ตามหากเจ้าตัวประสงค์จะมาชี้แจงก็สามารถชี้แจงประกอบบัญชีที่ยื่นมาได้ เพราะทางป.ป.ช.ยังไม่ได้ตรวจ
ทั้งนี้ ในการตรวจสอบเบื้องต้นของป.ป.ช. ก็ต้องดูประเด็นเพราะอาจจะไม่ใช่มีกรณีเรื่องนี้เรื่องเดียว เราต้องตรวจสอบบัญชีรายการทรัพย์สินโดยละเอียดว่ามีประเด็นสงสัยในเรื่องอื่นด้วยหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นเฉพาะตามข่าวที่มีการบวกเลขผิดหรือไม่เท่านั้น จะต้องรวมไปถึงรายการทรัพย์สินอื่นด้วย ซึ่งผู้ยื่นฯ ก็ต้องชี้แจงรายละเอียดตัวเลขให้ได้”