วันนี้ (12 ธ.ค.65) ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย นายเดช เล็กวิชัย ผู้อำนวยการกองพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง นายสุชาติ กาญจนวิลัย ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเพชรบูรณ์ นายเจษฎา โทศิริกุล ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างขนาดกลางที่ 10 และผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำเฮี้ย จังหวัดเพชรบูรณ์ รวมถึงโครงการระบบส่งน้ำต่าง ๆ ในพื้นที่ หวังเพิ่มแหล่งน้ำต้นทุน บรรเทาปัญหาภัยแล้ง ตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน เดินหน้าสร้างความมั่นคงด้านน้ำในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ รวมทั้งระบบส่งน้ำต่าง ๆ ในพื้นที่ เพื่อเป็นแหล่งเก็บกักน้ำให้ประชาชนได้มีน้ำใช้สำหรับอุปโภคบริโภคและการเกษตร เนื่องจากส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก และมักประสบปัญหาภัยแล้งเป็นประจำ ปัจจุบันกรมชลประทาน กำลังดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำเฮี้ย ซึ่งเป็น 1 ในแผนพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลบ้านเนิน อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ปัจจุบันมีความคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 90 คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2566
นับว่าเป็นอ่างเก็บน้ำแห่งใหม่ ที่สามารถเก็บกักน้ำได้ประมาณ 5.40 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) เป็นแหล่งน้ำต้นทุนให้ประชาชนในพื้นที่อำเภอหล่มเก่าและอำเภอหล่มสัก รวมพื้นที่รับประโยชน์กว่า 4,500 ไร่ ช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ ทั้งด้านการอุปโภคบริโภคและการเกษตรให้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอตลอดทั้งปี สามารถสร้างรายได้ สร้างอาชีพ เพิ่มผลผลิตทางการเกษตรได้มากขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการก่อสร้างระบบส่งน้ำ เพื่อส่งน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานไปยังพื้นที่การเกษตรได้อย่างทั่วถึง ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง อาทิ โครงการระบบส่งน้ำอ่างเก็บน้ำคลองลำกง อำเภอหนองไผ่ โครงการระบบส่งน้ำอ่างเก็บน้ำห้วยท่าพล อำเภอเมือง โครงการระบบส่งน้ำอ่างเก็บน้ำห้วยนา อำเภอเมือง และโครงการระบบส่งน้ำอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำชุนใหญ่ อำเภอเขาค้อ อีกทั้งในปี 2566 ยังมีแผนดำเนินการก่อสร้างโครงการฝายยางบ้านพุเตย อำเภอวิเชียรบุรี เพื่อทดน้ำจากแม่น้ำป่าสักเข้าสู่ลำน้ำธรรมชาติ สามารถเก็บกักน้ำได้ประมาณ 850,000 ลบ.ม. และอีกหนึ่งโครงการคือโครงการแก้มลิงบ้านน้ำก้อ-น้ำเฮี้ย พร้อมอาคารประกอบ อำเภอหล่มสัก ซึ่งจะเป็นแหล่งน้ำสำรองในพื้นที่เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1.05 ล้าน ลบ.ม.
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศในช่วงวันที่ 12 – 16 ธ.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง โดยบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 4 – 6 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 3 – 5 องศาเซลเซียส
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในวันที่ 17 – 18 ธ.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวต่อเนื่องกับมีลมแรง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อนึ่ง ในวันที่ 12 ธ.ค. 2565 หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณช่องแคบมะละกาและทะเลอันดามันตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังปานกลาง โดยบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ข้อควรระวัง
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
