“ข้าวสรรพสี”จากนาข้าวที่สร้างความแตกต่าง เพิ่มคุณประโยชน์ จนกลายเป็นข้าวที่มีคุณค่าและท้องนายังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่สวยงาม 

เชิญชวนไปเที่ยวงานเกษตรกำแพงแสน ที่กำลังจะจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 1-10 ธันวาคม 2565 ณมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ซึ่งจะมีสถานที่เช็คอิน ถ่ายภาพ ที่ไม่ควรพลาด คือ “นาข้าวสรรพสี” ของศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว 

CEA60556 EEAB 4034 B46B 403BEB6A8A35

สำหรับข้าวสรรพสี เป็นการผสมข้ามพันธุ์ระหว่าง พันธุ์พ่อ เป็นข้าวเจ้าหอมนิลพันธุ์กลายใบขาว กับพันธุ์แม่ เป็นข้าวก่ำหอมนิล จนเกิดเป็นข้าวสรรพสี 

DB1DE036 15AB 4015 B5C7 7F63CE6A5DE9

ประกอบด้วย สายพันธุ์ใบสีชมพูทับทิมต้นสูง (สรรพสี 01),ใบสีชมพูทับทิมต้นเตี้ย (สรรพสี 02), ใบสีชมพูแถบเขียวและขาวต้นสูง  (สรรพสี 03), ใบสีชมพูแถบเขียวและขาวต้นเตี้ย (สรรพสี 04) และใบสีขาว(สรรพสี 05) ซึ่งข้าวสรรพสีทั้ง 5 สายพันธุ์ อยู่ในระหว่างขั้นตอนการยื่นจดคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่

จุดเริ่มต้นของนาข้าวสรรพสี เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2553 เกิดการผสมข้ามพันธุ์ระหว่าง พันธุ์พ่อ‘ข้าวเจ้าหอมนิลพันธุ์กลายใบขาว’ กับ พันธุ์แม่ ‘ข้าวก่ำหอมนิล’ จนเกิดเป็น”ข้าวสรรพสี” โดยศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าวมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน 

ใบข้าวโดยทั่วไป มีสีเขียวเกิดจากการสะสมรงควัตถุที่เรียกว่า Chlorophyll ซึ่ง Chlorophyll ถือว่าเป็นรงควัตถุที่มีมากที่สุดในโลก เนื่องจากพืชและจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ต่างก็มีรงควัตถุชนิดนี้ ข้าวบางชนิดมีสีใบที่แตกต่างอย่างชัดเจน เช่น พันธุ์ข้าวเหนียวพื้นเมืองที่เรียกว่า ข้าวก่ำ มีใบสีม่วงอมเขียว 

บางสายพันธุ์อาจมีใบและลำต้นสีม่วงเข้มสวยงามมาก รงควัตถุที่ทำให้ใบข้าวเกิดสี แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ คลอโรฟิวส์ (Chlorophyll) ให้สีเขียว แคโรทีนอยด์ (carotenoid) ให้สีเหลืองถึงแดง แอนโทไซยานิน (anthocyanin) ให้สีแดงม่วงไปจนถึงน้ำเงิน

F3D6AEAB 738E 4223 9FB2 F65BA9E4C475

การปรับปรุงพันธุ์ข้าวสรรพสี

โดยวิธีการผสมข้ามพันธุ์ คัดเลือกต้น F2 โดยเน้นจากความหลากหลายของเฉดสีบนแผ่นใบ รูปร่างใบขนาดใบ ซึ่งพบการกระจายตัวของสีใบ ตั้งแต่เขียวสลับขาว ชมพู ม่วง คัดเลือกลักษณะทรงต้นที่ดี สีใบและรูปร่างใบ มีความสม่ำเสมอ เพื่อเลือกสายพันธุ์ที่เป็นตัวแทนแต่ละเฉดสีใบ จากครอบครัว F2 ดีเด่นจากนั้นนำมาผสมข้ามต้นระหว่างครอบครัว  F1  เพื่อผลิตปลูกแล้วเก็บเมล็ด F2  มาปลูกและคัดเลือก F2 สายพันธุ์ที่มีสีใบตามเป้าหมาย ใบตั้ง กอตั้ง ไม่ไวแสง ในปี 2556 

คัดเลือกและปลูกครอบครัว F3 จากแต่ละคู่ผสม ในปี 2557 และทำเช่นนี้อีกในรุ่น F4 และ F5 ในปี2558-2559 จนได้ข้าวสรรพสี ที่มีสีของใบแตกต่างกัน ความสูงต่างกัน ทรงกอตั้ง ไม่ไวแสง อายุยาวจำนวน 5 สายพันธุ์

BFABF0C6 790D 4737 AE3B 4E3B381BB8B2

ประกอบด้วย

  1. สายพันธุ์ใบสีชมพูทับทิมต้นสูง (สรรพสี 01)
  2. ใบสีชมพูทับทิมต้นเตี้ย (สรรพสี 02)
  3. ใบสีชมพูแถบเขียวและขาวต้นสูง  (สรรพสี 03)
  4. ใบสีชมพูแถบเขียวและขาวต้นเตี้ย  (สรรพสี 04)
  5. ใบสีขาว (สรรพสี 05)
211FFAA2 B7EC 444D 96AB 40A177F7E826
78C19F0E 6F3D 4F02 BADA 54C0529A362F

สายพันธุ์ข้าวสรรพสีเหล่านี้ จะปรากฏสีบนแผ่นใบชัดเจนและสวยงามมาก เมื่อปลูกในช่วงฤดูหนาว ข้าวสรรพสีทั้ง 5 สายพันธุ์ อยู่ในระหว่างขั้นตอนการยื่นจดคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ (Plant Variety Protection: PVP)

9C404FC3 86FF 4CAB BA61 4D0000A0F2C6
6B70D684 8618 43C3 B3DD CB54BCE65D46

รงควัตถุที่พบในข้าวสรรพสี คือ anthocyanin ที่สะสมอยู่จนทำให้ใบและทุกส่วนของก้านดอกข้าว มีสีสวยงามตั้งแต่ม่วงไปจนถึงชมพู anthocyanin ที่พบในข้าวสรรพสี มีส่วนผสมกันของ cyaniding-3-glucoside (สีส้ม-แดง), peonidin-3-glucoside (สีส้ม-แดง), peargomidin-3-glucoside (สีส้ม) และdelphinidin-3-glucoside (สีน้ำเงิน-แดง)

สาร anthocyanin เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญที่สุดในข้าว เพราะมีปริมาณมากที่สุดและสามารถละลายน้ำได้ ถูกดูดซึมได้ง่าย การบริโภคข้าวกล้องที่มีสี รวมทั้งผักและผลไม้ที่มีสี จึงช่วยลดสภาวะ Oxidative stress ภายในเซลล์ได้เป็นอย่างดี 

นอกจากนั้น anthocyanin ยังเป็นสารกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตในเส้นเลือดแดง โดยเฉพาะเส้นเลือดฝอย ต่อต้านการสะสมไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้อีกด้วย

5434FCE5 2A2C 4893 98C8 4630E7EB8CE8

ขอบคุณข้อมูลและภาพ จาก : ศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว หน่วยปฏิบัติการค้นหาและใช้ประโยชน์ยีนข้าว, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน