เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วยคณะ เดินทางไปยัง จ. ขอนแก่น และ จ.มหาสารคาม เพื่อร่วมเกี่ยวข้าวอิ่ม ข้าวเกษตรอินทรีย์ ในโครงการเกษตรเข้มแข็ง โดยกล่าวว่า ปีนี้ครบ 9 ปี แล้วสำหรับข้าวอิ่มมหาสารคาม ซึ่งได้ริเริ่มตั้งแต่ปี 2556 ที่หมู่บ้านหนองหิน จ.มหาสารคาม
ด้วยการเปลี่ยนข้าวที่ใช้สารเคมีในการเพาะปลูก มาเป็นข้าวเกษตรอินทรีย์ จนได้รางวัลพันธุ์ข้าวยอดเยี่ยมระดับประเทศ เกิดการต่อยอดข้าวเป็นสินค้าพรีเมียมประจำจังหวัด ด้วยรสชาติของข้าวมหาสารคามที่อร่อยที่สุดในโลก และกำลังขยายผลเพิ่มมูลค่าสินค้าอีกหลายชนิด ทั้งข้าวพองธัญพืช รสชาติอร่อยมาก รวมไปถึงเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางบำรุงผิว สบู่ ฯลฯ ช่วยให้เกษตรกรปลดหนี้ มีเงินเก็บ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
นายกรณ์ กล่าวว่า ดีใจมากที่ปีนี้ ข้าวอิ่ม ได้รับรางวัล ข้าวคุณภาพอันดับที่ 3 ของประเทศ ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดา จากหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่รวมตัวกันด้วยความกล้าหาญ เปลี่ยนวิถีการปลูกข้าว เริ่มต้นจาก 7 ครัวเรือนปัจจุบันเพิ่มเป็น 171 ครัวเรือน ในพื้นที่นา 1,783 ไร่ ทำให้เห็นถึงความตั้งใจ และอดทน จนเป็นที่ยอมรับของหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในระดับจังหวัดและระดับประเทศ และได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาลผ่านโครงการต่าง ๆ เพื่อพัฒนาและเพิ่มมูลค่าผลผลิต ทั้งรถเกี่ยวข้าว โรงสีชุมชน เครื่องบรรจุสุญญากาศฯลฯ นับเป็นโอกาสที่ดีที่เกษตรกรจะได้ยกระดับมาตรฐานสินค้าให้น่าซื้อ มากยิ่งขึ้น
“ข้าวอิ่ม ถือเป็นโครงการที่เป็นบทพิสูจน์ทางนโยบาย ทำไว้เมื่อ 9 ปีที่แล้ว มาจนถึงวันนี้ประสบผลสำเร็จทั้งในแง่คุณภาพข้าวและรายได้ของชาวนาเป็นที่ประจักษ์
ไทยเราปลูกข้าวดีราคาต่ำมานาน ตลาดพรีเมียมของโลกมีช่องอีกมาก ตรงนี้คือเรื่องสำคัญทางผมได้ชูแนวทางเกษตรพรีเมียม เพราะเกษตรคือโอกาส แต่ต้องคิดแบบผู้ประกอบกิจการ ไม่ใช่คิดแค่เป็นผู้ผลิตนอกจากคุณภาพของสินค้าแล้ว บรรจุภัณฑ์ก็สำคัญมาก ปีนี้ เรานำส่วนผสมของดีของหลายจังหวัดมารวมกันในแพคเกจของข้าวอิ่ม คือ กระจูดจาก จ.นครศรีธรรมราช ตกแต่งด้วยผ้าบาติก จ.ภูเก็ต บรรจุข้าวอิ่ม ทุ่งกุลา จ. มหาสารคามที่อร่อยที่สุดในโลก ใน 3 สายพันธุ์ คือ หอมมะลิ 105, หอมนิล และ มะลิแดงสามารถเป็นของขวัญ ของฝากพรีเมียมสำหรับโอกาสสำคัญ และเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้” นายกรณ์ กล่าว
ขณะที่นางจิราภรณ์ อินทะสร้อย ประธานวิสาหกิจชุมชนปลูกข้าวปลอดสารพิษกลุ่มเกษตรกรบ้านหนองหิน กล่าวว่า ปีนี้ผลผลิตดีต่อเนื่อง คุณภาพดินที่ฟื้นฟูหลังจากเริ่มปลูกแนวอินทรีย์เมื่อ 9 ปีที่แล้วทำให้สามารถขายข้าวอินทรีย์พรีเมียมได้ในราคาตันละ 20,000 – 25,000 บาท ซึ่งจากความสำเร็จดังกล่าวทำให้มีชาวนาที่ทำเกษตรอินทรีย์ ใน จ.มหาสารคาม อยากให้นายกรณ์ ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มโครงการข้าวอิ่ม ได้ไปช่วยเรื่องการตลาดด้วย เนื่องจากโครงการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ 1 ล้านไร่ของรัฐบาล สนับสนุนให้ชาวบ้านปลูก แต่ไม่ได้ช่วยเรื่องการตลาด
สำหรับผู้ที่สนใจ สนับสนุนสินค้า ‘ข้าวอิ่ม’ สามารถติดต่อได้โดย โทร. 096-672-2093 Line @immrice เพจ ข้าวอิ่ม – เกษตรเข้มแข็ง