“เราทาสีหอไข่มุกตะวันออกเป็นสีชมพู เพื่อสื่อว่าเรามาจากไทย” จีน่า หญิงชาวไทย กล่าวขณะชี้ให้ดูภาพวาดบนผนังร้านอาหารไทย ซึ่งเธอร่วมหุ้นกับเพื่อนสนิทอย่างศุภรัตน์ เทียนปั่น เปิดบนถนนหวยไห่ของเซี่ยงไฮ้เมื่อปี 2020
จีน่าและศุภรัตน์ เดินทางมาแล้วหลายเมืองหลายประเทศ และตกลงปลงใจปักหลักอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ในท้ายที่สุด โดยจีน่าเคยมาเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยการเงินและเศรษฐศาสตร์แห่งเซี่ยงไฮ้เมื่อปี 2006 จนจบปริญญาเอก
ด้านศุภรัตน์เล่าว่าเธอมาเซี่ยงไฮ้ตั้งแต่ปี 2012 คิดว่าวัฒนธรรมและประเพณีจีนค่อนข้างคล้ายคลึงกับของไทย ส่วนเซี่ยงไฮ้ก็เป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศที่มีโอกาสอยู่มากมาย โดยนอกจากทำร้านอาหารแล้ว ยังทำงานด้านการออกแบบด้วย
“ความนิยมละครไทยที่ปลุกกระแส “ชื่นชอบไทย” ในเซี่ยงไฮ้เมื่อไม่กี่ปีก่อนเป็นจุดที่ทำให้เกิดความคิดทำธุรกิจ” จีน่ากล่าว พร้อมเสริมว่าเซี่ยงไฮ้เป็นเมืองที่มีความเป็นสากล และเปิดรับวัฒนธรรมต่างชาติสูงมาก ทำให้มีร้านอาหารต่างชาติหลากหลาย
จีน่าและศุภรัตน์เลือกเปิดร้านอาหารบนถนนหวยไห่ที่มีวัยรุ่นพลุ่กพล่านและกลิ่นอายวิถีชีวิตความเป็นเซี่ยงไฮ้ พร้อมกับสั่งซื้อวัตถุดิบบางส่วนตรงจากไทย เพราะแม้สามารถหาซื้อยี่ห้อเดียวกันได้ในเซี่ยงไฮ้แต่อาจมีรสชาติแตกต่างดังเช่นน้ำปลาที่รสอ่อนกว่า
“ศุภรัตน์”ที่เป็นนักออกแบบได้ทำรั้วไม้ไผ่ที่ทางเข้า แขวนภาพเกาะภูเก็ตกับรถตุ๊กตุ๊กในร้าน และวาดภาพบนผนังที่ผสานความเป็นจีนและความเป็นไทยอย่างหญิงสวมชฎาซ้อนมอเตอร์ไซค์ที่ขี่โดยยักษ์เฝ้าวัดพร้อมขนทุเรียน มะพร้าว มังคุด แมววิเชียรมาศ และลากช้าง
ร้านอาหารกลายเป็น ‘หน้าต่างบานเล็ก’ สำหรับเผยแพร่วัฒนธรรมไทยสู่เซี่ยงไฮ้ และอาจเป็นพื้นที่จัดสารพัดกิจกรรม เช่น เปิดครัวทำอาหารไทย หรือชวนลูกค้ามาเปิดประสบการณ์ทำอาหารไทย เพื่อสัมผัสวัฒนธรรมไทย
นอกจากนั้นมีการชักชวนเพื่อนชาวไทยในเซี่ยงไฮ้มาเฉลิมฉลองเทศกาลตามประเพณีไทย เช่น ลอยกระทงและสงกรานต์ โดยจีน่าทิ้งท้ายว่าเธอจะเดินหน้าธุรกิจร้านอาหารไทยนี้ และวางแผนอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ต่อไปเพื่อขยับขยาย ‘หน้าต่างบานเล็ก’ ให้ใหญ่ขึ้น
ขอบคุณข้อมูล/ภาพ จาก : สำนักข่าวซินหัว (XinhuaThai)