จุรินทร์ เล็งปรับน้ำมันดีเซล B5 เป็น B7 พยุงราคาปาล์ม พร้อมมีประกันรายได้ เป็นหลักประกันดูแลยามราคาตก

วันที่ 13 พฤศจิกายน 2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธีมอบใบรับรองการขึ้นทะเบียนองค์กรเกษตรกรและมอบใบรับรองการจัดการหนี้ให้กับเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พร้อมติดตามความคืบหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกรและตรวจเยี่ยมโครงการ “พาณิชย์…ลดราคา ออนทัวร์ทั่วไทย” Lot 21 ที่ ที่ว่าการอำเภอตะกั่วป่า จ.พังงา โดยมีชาวตะกั่วป่า และกลุ่มเกษตรกรจังหวัดพังงา มารอต้อนรับนายจุรินทร์

102613
เล็งปรับน้ำมันดีเซล B5 เป็น B7

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ดีใจได้มีโอกาสมาพบกับพวกเราอีกครั้งหนึ่ง วันนี้ยังสามารถทำหน้าที่ให้คนพังงาและคนไทยทั้งประเทศได้อยู่ ตนสำนึกบุญคุณของพี่น้องเสมอไม่มีวันลืมเลือน คิดว่าจะทำหน้าที่ให้กว้างไกลขึ้นเพราะตนรู้ว่าคนพังงาคิดยาว คนบ้านตนคิด การณ์ไกลไม่คิดที่จะส่งไปเป็นผู้แทนฯเพื่อดูเขตเท่านั้น แต่คิดถึงอนาคตของคนที่เลือกของพวกเราคนพังงาด้วย เพราะวันหนึ่งถ้านายจุรินทร์มีโอกาสทำงานที่กว้างไกลขึ้นความรับผิดชอบมากขึ้น คนคนนี้ไม่ลืมบ้านเกิด สิ่งที่ทำมาตั้งแต่เป็นผู้แทนปี 29 พี่น้องประจักษ์กับตัวเอง

ตนในฐานะคนพังงาไม่ลืมพี่น้อง ยุคนี้มาเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ทำให้เกษตรกรได้ประโยชน์มากที่สุด ได้ทำเม็ดเงินเข้ากระเป๋าพี่น้องไปแล้ว 3 ปีกว่า ราคาพืชผลการเกษตรดีเกือบทุกตัว ยางพารา ราคาดีขึ้นจากสมัยก่อน ขี้ยางเคยขึ้นไปถึง 23-30 บาท/กก. ตอนนี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 20 บาท ดีกว่าสมัยก่อนมากซึ่งอยากให้ขึ้นมากกว่านี้ เอาไปทำยางรถยนต์และถุงมือยาง ก่อนหน้านี้ที่โควิดทำให้ความต้องการถุงมือยางมากขึ้นราคาน้ำยางขึ้น วันนี้โควิดดีขึ้น ราคายางจึงลดลงแต่อีกช่วงราคาจะปรับขึ้นโดยเฉพาะยางแผ่นกับขี้ยางที่เอาไปทำยางรถยนต์ ที่ราคาตกช่วงนี้เพราะเศรษฐกิจโลกไม่ดี สงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ราคาน้ำมันและแก๊สธรรมชาติสูงขึ้น และรถยนต์ที่ต้องใช้เซมิคอนดักเตอร์ ตัวเซมิคอนดักเตอร์ขาดแคลนจากปัญหาจีนและไต้หวัน รถยนต์ผลิตได้น้อยไปด้วย ยางรถยนต์จึงขายได้ลดลงแต่เราเข้าไปดูแลตลอด ปลายปีถึงต้นปีราคายางมีโอกาสขยับดีขึ้น แต่ถ้าวันไหนราคายางตกมีประกันรายได้เกษตรกร ปาล์มน้ำมันสมัยก่อนราคาตกตลอดเพราะมีการลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ตนจึงห้ามนำเข้าปาล์มทางบก และส่งเสริมการส่งออกน้ำมันปาล์ม การปรับการใช้น้ำมัน B5 เป็น B7 B10 แต่ตอนหลังราคาปาล์มสูงมาก 12 บาท/กก. จึงต้องยกเลิก และอินโดนีเซียส่งเสริมการส่งออก

“ขณะนี้ราคาปาล์มเฉลี่ย 6-8 บาท/กก. ตอนนี้ตนเสนอเข้าที่ประชุมฯให้ปรับจาก B5 เป็น B7 ให้ราคาปาล์มขยับขึ้น แต่ถ้าวันไหนราคาปาล์มต่ำกว่ารายได้ที่ประกัน ก็จะมีประกันรายได้ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นเงื่อนไขก่อนเข้าร่วมรัฐบาล เป็นหลักประกันให้พี่น้อง ขี้ยาง 23 บาท/กก. น้ำยางข้น 57 บาท/กก. ยางแผ่นดิบ 60 บาท/กก. ถ้าต่ำกว่ารายได้ที่ประกันก็จะโอนเงินส่วนต่างเข้าบัญชี ธ.ก.ส.โดยตรง ประกันรายได้ปาล์มน้ำมัน 4 บาท/กก. เป็นหลักประกันให้คนปักษ์ใต้ เฉพาะพังงาตั้งแต่ตนเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เฉพาะยางพารา จังหวัดพังงามีเกษตรกร 23,000 ราย ช่วง 3 ปี ได้รับเงินชดเชยเป็นเงิน 560 ล้านบาท เฉลี่ยรายละ 24,565 บาท ปาล์มน้ำมันช่วงหลังราคาดีไม่ต้องจ่ายเงินส่วนต่าง มี 15,000 ครัวเรือนจ่ายเงินส่วนต่างรวม 300 ล้านบาท เฉลี่ยรายละ 19,500 บาท กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯที่ทำเม็ดเงินเข้ากระเป๋าพี่น้องโดยตรง”

และวันนี้มีโครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชนมาบริการพี่น้อง 3 วัน กว่า 100 คูหา สินค้าที่มาลดราคาสูงสุดถึง 60% มีทั้ง หมูกิโลกรัมละ 150 บาท ไก่ 60 กว่าบาท/กก. น้ำมันพืชขวดละ 45 บาท ข้าวสารกิโลกรัมละ 10 กว่าบาท สินค้าชำระล้างร่างกายอีกมากมายให้จับจ่ายใช้สอย ช่วยลดภาระค่าครองชีพให้พี่น้องคนพังงาบ้านเราได้ไม่น้อย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานมีนายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน นายสาคร เกี่ยวข้อง ส.ส.จังหวัดกระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ นายสไกร พิมพ์บึง เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เข้าร่วมด้วย

และนายจุรินทร์ได้มอบใบรับรองการขึ้นทะเบียนองค์กรเกษตรกร จำนวน 1 องค์กร จำนวนสมาชิก 80 คนและมอบใบรับรองการจัดการหนี้ จำนวน 9 ราย และที่ผ่านมาได้มอบเช็คเงินโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรแล้ว จำนวน 130 องค์กร 130 โครงการ จำนวน เงิน 72,085,317.00 บาท มอบเช็คเงินชำระหนี้แทนเกษตรกรให้กับเจ้าหนี้สหกรณ์ ในพื้นที่ จำนวน 53 สหกรณ์ จำนวนเงิน 186,012,679.31 บาท มอบโฉนดที่ดินและใบประกาศเกียรติคุณให้เกษตรกรที่ชำระหนี้ครบตามสัญญา จำนวน 985 คน มอบใบทะเบียนองค์กรเกษตรกร จำนวน 80 องค์กร