ดร.มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เพื่อประโยชน์การรับรู้ข้อมูลข่าวสารของชาวนาและเกษตรกรทั้งประเทศรวมทั้งชื่มชมรัฐบาลที่ใส่ใจความคืบหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกรปีที่ 4 โดยเฉพาะพลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีและนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ร่วมกันผลักดันงบประมาณรองรับโครงการปีที่ 4 นี้
มัลลิกา กล่าวอีกว่า โครงการประกันรายได้นั้นเบื้องต้นนายจุรินทร์ดำเนินงานผ่านทุกขั้นตอนมาแล้วโดยผ่านคณะกรรมการที่ดูแลมีหลักเกณฑ์เหมือน 3 ปีที่ผ่านมา ได้แก่ ข้าว วงเงิน 86,740 ล้านบาท จ่ายส่วนต่างงวดแรกวันที่ 14 ต.ค. 2565 งวดสุดท้ายวันที่ 26 พ.ค. 2566 มันสำปะหลัง วงเงิน 4,743 ล้านบาท ประกันรายได้ กก.ละ 2.50 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 100 ตัน เริ่มตั้งแต่ 1 ธ.ค. 2565 -1 พ.ย. 2566 ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ วงเงิน 1,669 ล้านบาท ประกันรายได้ กก.ละ 8.50 บาท เริ่มจ่ายส่วนต่างงวดแรก 20 พ.ย.2565 และปาล์มน้ำมัน 6,128 ล้านบาท ประกันรายได้ กก.ละ 4 บาท เริ่มจ่ายส่วนต่าง ก.ย. 2565
“ทราบจากรองนายกรัฐมนตรีจุรินทร์ว่า โครงการประกันรายได้ปีที่ 4 มีแนวโน้มว่าจะใช้งบประมาณไม่มาก เนื่องจากราคาพืชเกษตรหลายตัวมีราคาสูงขึ้นเกินกว่าเพดานที่ประกันรายได้ ทำให้ไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยส่วนต่าง โดยปาล์มน้ำมัน ที่ผ่านมาก็ไม่ต้องจ่ายชดเชย เพราะราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และปัจจุบันก็ราคา 6.40 – 7.10 บาท/กก. เกินกว่าที่ประกันรายได้ไว้ที่ 4 บาท/กก.ด้วย สำหรับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ไม่ต้องจ่ายชดเชยมากว่า 12 งวดติดต่อกันแล้ว และยังมีแนวโน้มที่ราคาจะทรงตัวอยู่ในระดับสูงปัจจุบันราคาอยู่ที่ 11.60-11.80 บาท/กก. และมันสำปะหลัง ไม่ต้องจ่ายชดเชยมาแล้ว 12 งวดเช่นเดียวกันและราคายังทรงตัวสูงอยู่ โดยปัจจุบันอยู่ที่ 3.30-3.35 บาท/กก.สูงกว่าราคาประกันรายได้ ส่วนข้าว ราคาเริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยข้าวหอมมะลิอยู่ที่ 15,000-16,000 บาท/ตัน ข้าวหอมปทุมธานี 11,000-11,500 บาท/ตัน ข้าวเปลือกเจ้า 9,500 บาท/ตัน และข้าวเปลือกเหนียว 11,000-12,200 บาท/ตัน ซึ่งหลายชนิดมีราคาสูงกว่าที่ประกันรายได้ไว้และบางชนิดราคาเกือบเท่ากับที่ประกันรายได้ ” มัลลิกา กล่าว
ดร.มัลลิกา ระบุว่าก่อนหน้านี้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ เปิดเผยแล้วว่า กระทรวงพาณิชย์ได้นำเสนอโครงการประกันรายได้ปีที่ 4 สินค้าเกษตร 4 ชนิด ได้แก่ ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง และปาล์มน้ำมัน เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เหลือเพียงยางพาราชนิดเดียวที่อยู่ระหว่างการเสนอคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) และหากได้รับการอนุมัติก็จะนำเสนอ ครม.ตามไป
“สำหรับเรื่องข้าวที่ถามกันมามากนั้นขั้นตอนเหมือนปีก่อนและล่าสุดการจัดการด้านงบประมาณมีข้อยุติแล้วซึ่งนายจุรินทร์ ระบุว่านายกรัฐมนตรีสั่งการว่าให้นำเข้า ครม.สัปดาห์หน้าได้ เป็นไปตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอผ่านคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ โดยให้ดำเนินการทั้งนโยบายประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวและการช่วยชาวนาด้านไถหว่านเพื่อการผลิตไร่ละ 1,000 บาท รายละไม่เกิน 20 ไร่ด้วย ตามที่ได้เสนอ ส่วนรายละเอียดวงเงินให้คำนวณตามสถานการณ์ข้อเท็จจริงที่เป็นในปัจจุบัน เพราะปัจจุบันราคาข้าวปรับตัวดีขึ้นมาก ซึ่งราคาข้าวเปลือกปรับตัวสูงขึ้นมาก ทั้งหมดนี้ขอแจ้งให้พี่น้องเกษตรกร ชาวนา ทราบทั่วกันและขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี กับรองนายกฯจุรินทร์ และรัฐบาลด้วย รัฐบาล-ราชการยุคนี้ทำงานสุดปังจริง ๆ ” ส.ส.มัลลิกา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าว