นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบจ่ายเงินเยียวยาให้แก่ครัวเรือนที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการจ่ายเงินดังกล่าวโดยเร่งด่วน ซึ่งกระทรวงการคลังจะเป็นผู้จัดสรรวงเงินเยียวยาให้ คาดว่าจะใช้เงินประมาณ 7 พันล้านบาท โดยใช้งบประมาณกลางออกมาบรรเทาความเดือดร้อนดูแลประชาชน เนื่องจากช่วงที่ประสบปัญหาน้ำท่วมนั้นส่งผลให้ประชาชนเสียโอกาสในการประกอบอาชีพ
ทั้งนี้ เงื่อนไขการจ่ายเงินเบื้องต้น คือ ครัวเรือนที่ประสบภัยน้ำท่วมระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือน จะได้รับเงินเยียวยาจำนวน 5 พันบาท ครัวเรือนที่ประสบภัยน้ำท่วมระยะเวลาไม่เกิน 2 เดือน จะได้รับเงินเยียวยาจำนวน 6 พันบาท และครัวเรือนที่ประสบภัยน้ำท่วมไม่เกิน 3 เดือน จะได้รับเงินเยียวยาจำนวน 7 พันบาท
สำหรับการเยียวยานั้น กระทรวงมหาดไทยจะเป็นผู้ดูแลและกระทรวงการคลังจะเร่งรัดติดตามในด้านงบประมาณ เพื่อให้เงินไปถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบรวดเร็วที่สุด การจ่ายเงินเยียวยาในครั้งนี้ ก็จะเป็นการเพิ่มกำลังใจให้กับประชาชน จากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นซึ่งการจ่ายเงินดูแลดังกล่าว จะเป็นคนละส่วนกันกับการดูแลค่าเสียหายของครัวเรือน
ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่า สถานการณ์อุทกภัยและภาวะฝนตกหนักและการระบายน้ำจากเขื่อนลงแม่น้ำสายหลัก ตั้งแต่ช่วงวันที่ 28 ก.ย. – 8 พ.ย. 65 พื้นที่น้ำท่วมรวม 59 จังหวัด 353 อำเภอ 1,879 ตำบล 11,770 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 528,063 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 12 ราย โดยภาพรวมระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่องทุกจังหวัด
ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมในพื้นที่รวม 12 จังหวัด ได้แก่ มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ชัยนาท อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี สุพรรณบุรี นครปฐม และนครศรีธรรมราช รวม 44 อำเภอ 394 ตำบล 2,727 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 168,362 ครัวเรือน ทั้งนี้ ปภ. ได้ประสานจังหวัดดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัย และเร่งระบายน้ำเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ภัย สำหรับพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ให้เร่งฟื้นฟูพื้นที่เพื่อให้ประชาชนกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ยังรายงานว่า จากอิทธิพลร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่างเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอันดามันตอนล่างและช่องแคบมะละกา ประกอบกับลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมตะวันออกพัดปกคลุมภาคใต้ อ่าวไทย และทะเลอันดามัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขัง โดยในช่วงวันที่ 4 – 8 พ.ย. 65 ได้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ สตูล สงขลา ยะลา ตรัง และนครศรีธรรมราช รวม 6 อำเภอ 22 ตำบล 98 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,121 ครัวเรือน ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมในอำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช รวม 8 ตำบล 39 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,677 ครัวเรือน