กรมชลฯเดินหน้าเร่งระบายน้ำท่วมขังใน 6 จังหวัด อ่างทอง นนทบุรี อยุธยา สุพรรณบุรี สิงห์บุรี และมหาสารคาม

นายเอนก ก้านสังวอน ผู้อำนวยการสำนักเครื่องจักรกล มอบหมายให้นายโยธิน ศรีสารคาม ผู้อำนวยการส่วนเครื่องจักรกลสูบน้ำ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการเครื่องจักรกลสูบน้ำ เดินหน้าติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เร่งสูบน้ำ เพื่อระบายน้ำท่วมขังในพื้นที่ ส่งผลให้ขณะนี้มีแนวโน้มลดลงและเริ่มคลี่คลายตามลำดับ เนื่องจากไม่มีปริมาณฝนตกเพิ่มเติมในพื้นที่

ทั้งนี้สำนักเครื่องจักรกลได้วางแผนการบริหารจัดการน้ำและกักเก็บน้ำ รวมถึงการเร่งระบายน้ำในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง และช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ดังนี้

313406829 494818942697352 5093727483847767304 n
เร่งระบายน้ำท่วมขังใน 6 จังหวัด

จังหวัดอ่างทอง

ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขับด้วยระบบไฮดรอลิค ขนาด 24 นิ้ว (1.0 ลบ.ม.ต่อวินาที) จำนวน 2 เครื่อง บริเวณ ต.บ้านอิฐ อ.เมือง เขตพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามหาราช สำนักงานชลประทานที่ 10 เพื่อเร่งระบายน้ำท่วมขัง โดยสามารถสูบน้ำได้วันละ 158,000 ลูกบาศก์เมตร

ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขับด้วยเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 12 นิ้ว (0.3 ลบ.ม.ต่อวินาที) จำนวน 2 เครื่อง บริเวณข้างโรงเรียนอมราวิทยาภูมิ อ.วิเศษไชยชาญ และ บริเวณท้ายซอยกาญจนาภิเษก 14 ต.ศาลเจ้าโรงทอ อ.วิเศษไขยชาญ สามารถสูบน้ำได้วันละ 47,400 ลูกบาศก์เมตร

จังหวัดนนทบุรี

ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขับด้วยเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 12 นิ้ว (0.3 ลบ.ม.ต่อวินาที) จำนวน 1 เครื่อง บริเวณ ปตร.คลองบางไผ่ใหญ่. ต.บางไผ่ อ.เมือง สามารถสูบน้ำได้วันละ 23,700 ลูกบาศก์เมตร

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขับด้วยระบบไฮดรอลิค ขนาด 24 นิ้ว (1.0 ลบ.ม.ต่อวินาที) จำนวน 1 เครื่อง บริเวณ อ.เสนา เพื่อบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ โดยสามารถสูบน้ำได้วันละ 79,000 ลูกบาศก์เมตร

จังหวัดสุพรรณบุรี

ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขับด้วยเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 12 นิ้ว (0.3 ลบ.ม.ต่อวินาที) จำนวน 1 เครื่อง บริเวณ ต.ดอนเจดีย์ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี เขตพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาสามชุก สำนักงานชลประทานที่ 12 สามารถสูบน้ำได้วันละ 23,700 ลูกบาศก์เมตร

จังหวัดสิงห์บุรี

ติดตั้งเครื่องจักรกลประเภทเครื่องสูบน้ำขับด้วยเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 12 นิ้ว (0.3 ลบ.ม.ต่อวินาที) จำนวน 1 เครื่อง บริเวณ ต.พระงาม อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ โดยสามารถสูบน้ำได้วันละ 23,700 ลูกบาศก์เมตร

จังหวัดมหาสารคาม

ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขับด้วยระบบไฮดรอลิค ขนาด 42 นิ้ว (3.5 ลบ.ม.ต่อวินาที) บริเวณประตูระบายน้ำท่าตูม อ.เมือง จ.มหาสารคาม สามารถสูบน้ำได้วันละ 277,000 ลูกบาศก์เมตร

ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า : ในช่วงวันที่ 30 ต.ค. – 1 พ.ย. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง และอุณหภูมิจะลดลง 1 – 2 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะเริ่มลดลงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลงในระยะถัดไป

ส่วนในช่วงวันที่ 2 – 5 พ.ย. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่งจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิจะลดลงอีก 2 – 4 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง

สำหรับร่องมรสุมจะเลื่อนไปพาดผ่านบริเวณภาคใต้ตอนล่าง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยคลื่นลมบริเวณ ทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 – 2 เมตร

ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตก สะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควร เดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง