นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ปัจจุบันการผลิตมันสำปะหลังยังใช้แรงงานคนเป็นหลัก ต้นทุนการกำจัดวัชพืชมีสัดส่วนร้อยละ 16 ของต้นทุนการผลิตมันสำปะหลังทั้งหมดซึ่งส่วนใหญ่เป็นต้นทุนการจ้างแรงงาน การกำจัดวัชพืชโดยวิธีทางกลถือได้ว่าเป็นวิธีที่ได้ผลดีอย่างยิ่งสามารถเพิ่มธาตุอาหารแก่พืช ทำให้อากาศสามารถผ่านลงในดินช่วยให้ดินร่วนซุยและเป็นการช่วยลดการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืช
เครื่องกำจัดวัชพืชแบบติดรถไถเดินตามในแปลงมันสำปะหลังเป็นชุดอุปกรณ์สำหรับพ่วงกับรถไถเดินตามขนาดเครื่องยนต์ 9-14 แรงม้า มีใช้กันแพร่หลาย ชุดผาลไถและล้อเหล็กสามารถใช้ร่วมกับรถไถเดินตามได้ทุกรุ่น สามารถไถพลิกกลบวัชพืชได้ทั้ง 2 ข้างของแถวมันสำปะหลังในการเดินรถไถเดินตามเพียงเที่ยวเดียว มีล้อเหล็กหน้าแคบที่ปรับได้และสามารถถอดประกอบกับตัวรถไถเดินตามได้เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานในไร่มันสำปะหลังที่มีระยะห่างระหว่างแถวตั้งแต่ 110 ซม. ขึ้นไปได้สะดวก ซึ่งเหมาะสำหรับทำงานในร่องมันสำปะหลังที่อายุ 2-3 เดือน
เครื่องประกอบด้วย 2 ส่วนที่สำคัญ ได้แก่
1) ล้อเหล็กหน้าแคบแบบปรับได้
2) ชุดโครงไถจานผาลคู่และล้อคัดท้าย
จากการทดสอบในไร่มันสำปะหลังอายุประมาณ 2-3 เดือน ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่า เครื่องมีความสามารถในการทำงาน 1.26 – 1.70 ไร่/ชม. ประสิทธิภาพการกำจัดวัชพืช 86.12 – 92.97% โดยมีจุดคุ้มทุน 89.33 ไร่/ปี และระยะเวลาคืนทุน 2.46 ปี
กรมวิชาการเกษตรถ่ายทอดเทคโนโลยี “เครื่องกำจัดวัชพืชติดรถไถเดินตามแบบจานพร้อมล้อเหล็กหน้าแคบแบบปรับได้” ให้แก่บริษัท เอส. ที. ขอนแก่น โดยบริษัทได้ผลิตจำหน่ายในเชิงพาณิชย์แล้ว มีเกษตรกรใช้เทคโนโลยีเป็นจำนวนมาก ผู้สนใจสามารถสอบถามได้ที่ ดร.วุฒิพล จันทร์สระคู 089-0722155
อธิบดีกรมวิชาการเกษตรกล่าวในตอนท้ายว่า เครื่องกำจัดวัชพืชและใส่ปุ๋ยแบบติดรถไถเดินตามที่พัฒนาขึ้นนี้สามารถทำการไถกำจัดวัชพืชในแปลงมันสำปะหลังที่อายุ 2-3 เดือน โดยกำจัดวัชพืชที่ขึ้นระหว่างแถวปลูก ซึ่งเป็นการไถพลิกกลบดินไปที่โคนต้น เพื่อทดแทนแรงงานคนในการกำจัดวัชพืชระหว่างแถวและลดการใช้สารเคมีในการกำจัดวัชพืช แต่อย่างไรก็ตามเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังควรทำการกำจัดวัชพืชในขณะที่ยังมีปริมาณไม่หนาแน่นจนเกินไป เพื่อให้เครื่องจักรสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ