พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประชุมคณะอนุกรรมการอำนวยการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำผ่านระบบ VTC ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ เพื่อติดตามการบริหารจัดการน้ำรับกับอุทกภัย และความเดือดร้อนของประชาชนที่กำลังเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ พร้อมทั้งเตรียมการรองรับฤดูแล้งในคราวเดียวกัน
โดยรับทราบสถานการณ์น้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ จากปริมาณน้ำสะสมที่มีมาก ส่งผลลำน้ำสายหลักเอ่อล้น โดยเฉพาะลุ่มเจ้าพระยา แม่น้ำมูลและแม่น้ำชี ที่ต้องเร่งให้การช่วยเหลือระบายน้ำและผันน้ำเข้าเก็บพื้นที่แก้มลิง เพื่อรับปัญหาฤดูแล้งไปด้วย โดยภาพรวมมีแหล่งน้ำที่ต้องเฝ้าระวังจำนวน 765 แห่ง ที่มีน้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุ พร้อมทั้งรับทราบการดำเนินงานของศูนย์ส่วนหน้าเพื่อบริหารจัดการน้ำภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยขอให้กรมชลประทาน ตรวจสอบความเสียหายพนังกั้นน้ำพื้นที่ท้ายอ่างให้มีความมั่นคงปลอดภัย เพื่อใช้บริหารจัดการน้ำได้เต็มศักยภาพ
จากนั้นที่ประชุมได้ร่วมพิจารณา(ร่าง)มาตรการรองรับฤดูแล้ง 10 มาตรการ ทั้งการเก็บกักน้ำ การเฝ้าระวังและจัดหาแหล่งน้ำสำรอง การเติมน้ำ แผนจัดสรรน้ำและพื้นที่เพาะปลูกพืชฤดูแล้ง การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำภาคการเกษตร การเตรียมน้ำสำรองสำหรับพื้นที่ลุ่มต่ำ การเฝ้าระวังคุณภาพน้ำในลำน้ำสายหลัก รวมทั้งการเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการบริหารจัดการน้ำของชุมชน การสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ และการติดตามประเมินผลการดำเนินงาน
พลเอกประวิตร ยังได้แสดงความเป็นห่วงประชาชนในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังยาวนาน โดยขอให้ทุกหน่วยงานสนับสนุนฝ่ายปกครองในพื้นที่ เร่งเข้าไปสำรวจและช่วยระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังนานให้เร็วขึ้นพร้อมเข้าไปช่วยเหลือเยียวยาทันที ซึ่งคาดว่าสถานการณ์จะดีขึ้นในเร็ววันนี้ ทั้งนี้มีความจำเป็นต้องเตรียมการรับฤดูแล้งด้วย
โดยขอให้กรมชลประทานพิจารณาเก็บกักน้ำเข้าพื้นที่แก้มลิง หรือแหล่งน้ำในพื้นที่ เพื่อรองรับการแก้ปัญหาภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมในฤดูแล้ง รวมถึงขอให้ตรวจสอบความแข็งแรงของแหล่งเก็บกักน้ำ และความพร้อมของเครื่องมือ รวมทั้งแผนปฏิบัติการแก้ปัญหาภัยแล้ง