วันที่ 7 ตุลาคม 2565 นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับมอบรางวัลผู้ทำคุณประโยชน์ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และระบบการประกันภัย ในพิธีมอบรางวัลประกันภัยดีเด่นครบวงจร (Prime Minister’s Insurance Award) ประจำปี พ.ศ. 2565 และงาน Thailand InsurTech Fair 2022 ในฐานะที่ได้ร่วมผลักดันระบบประกันภัยภาคเกษตร เพื่อการบริหารจัดการความเสี่ยงในการทำการเกษตรแบบครบวงจร โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ณ ห้องฟีนิกซ์ 1 – 6 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี
ที่ผ่านมากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างความมั่นคงในชีวิตและยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทย ผ่านการดำเนินงานเพื่อพัฒนาระบบประกันภัยภาคเกษตร ซึ่ง สศก. ได้ร่วมกับ คปภ. MOU บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการและการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการประกันภัยการเกษตร ไปเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2564 และได้ร่วมขับเคลื่อนงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพมาโดยตลอด ได้แก่ การมอบกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุรายย่อยเพื่ออาสาสมัครเกษตรจำนวน 20,000 กรมธรรม์ ให้แก่อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) และเศรษฐกิจการเกษตรอาสา (ศกอ.) ในโครงการ “คุ้มครองอุบัติเหตุ เซฟเกษตรอาสา” และการศึกษาแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้ครอบคลุมสินค้าเกษตรชนิดอื่น ๆ เช่น ไม้ผลมูลค่าสูง พืชอนาคตพืชเศรษฐกิจอื่น ๆ เป็นต้น
สำหรับในปี 2566 สศก. จะดำเนินโครงการภายใต้กรอบความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย – ญี่ปุ่น (Japan-Thailand Partnership Agreement: JTEPA) เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ในการพัฒนาระบบประกันภัยภาคเกษตรของประเทศญี่ปุ่น (A Collaboration in Knowledge Exchange and Experience Sharing Regarding Agricultural Insurance System between Japan and Thailand)
ทั้งนี้ สศก. พร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน และเกษตรกร ในการพัฒนาระบบประกันภัยภาคเกษตรอย่างยั่งยืน ที่ตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกรและสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรหันมาใช้การประกันภัยเป็นทางเลือกหนึ่งในการบริหารจัดการความเสี่ยงในการทำการเกษตรและสร้างความมั่นคงในชีวิต
ทั้งหมดนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นความมุ่งมั่นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่จะสร้างความเข้มแข็งเสริมภูมิคุ้มกันและยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประกันภัยพืชผล เป็นการประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายหรือสูญเสียต่อพืชผลที่เอาประกันภัย ซึ่งเกิดจากภัยตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ โดยอาจกำหนดให้คุ้มครองภัยทุกชนิด หรืออาจกำหนดให้คุ้มครองเฉพาะบางภัย เช่น น้ำท่วม ภัยแล้ง ลมพายุ ลูกเห็บตก เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นที่และชนิดของพืชที่จะก่อให้เกิดความเสียหายแตกต่างกัน โดยทั่วไปจะกำหนดให้คุ้มครองเฉพาะภัยธรรมชาติ ซึ่งเป็นภัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของมนุษย์
ผู้ที่จะทำประกันภัยพืชผล จะต้องเป็นผู้ที่ทำการผลิตพืชผลนั้น ๆ ด้วยตนเองและเป็นเจ้าของผลผลิตนั้น ทั้งนี้การประกันภัยพืชผลจะกำหนดระยะเวลาคุ้มครองไว้ล่วงหน้า โดยระยะเวลาคุ้มครองนี้จะตรงกับช่วงระยะเวลาเพาะปลูกของพืชแต่ละชนิด ดังนั้นการทำประกันภัยจึงต้องทำก่อนเริ่มระยะเวลาเพาะปลูกของพืชแต่ละชนิด
ภาครัฐได้กำหนดให้การประกันภัยพืชผล เป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญที่ใช้เป็นเครื่องมือช่วยเหลือเกษตรกรในการจัดระบบการเงิน เพื่อคุ้มครองต้นทุนการผลิตเมื่อเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ คุ้มครองปริมาณผลผลิตที่ลดต่ำลง และคุ้มครองราคาผลผลิตที่ผันผวน ซึ่งจะช่วยสร้างเสถียรภาพทางรายได้และความมั่นคงในอาชีพให้แก่เกษตรกร