ราคาปาล์มขยับขึ้นอย่างมีนัยยะ ประธานเครือข่ายสวนยางและปาล์มน้ำมันชี้มาจาก 4 ปัจจัย คาดราคารับซื้อจะขยับถึงกิโลกรัมละ 15 บาท
นาย ทศพล ขวัญรอด ประธานภาคีเครือข่ายชาวสวนยางและปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า วันนี้ราคารับซื้อปาล์ม ขยับขึ้นจากเดิม ซึ่งเป็นผลมาจาก 4 ปัจจัย คือ
1. ความต้องการในประเทศมีมาก แต่ผลผลิตปาล์มออกมาน้อย อันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ ส่งผลให้ผลผลิตปาล์ม เปลี่ยนไป
2. สมัยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เป็น รมว.พลังงาน ออกกฏหมายคุมเรื่องห้ามการนำเข้าปาล์ม และมีบทลงโทษสูง ซึ่งต้องยอมรับว่า มี่ผ่านมามีการลักลอบน้ำเข้าปาล์มน้ำมันจากประเทศเพื่อนบ้านเยอะมาก ส่งผล ให้เกิดผลผลิตในไทยล้น
3. สัดส่วนที่กำหนดให้นำปาล์มนำไปเป็นพลังงานทดแทน ยังกำหนดใช้อยู่ แต่เนื่องจากผลผลิตออกน้อยทำให้ความต้องการมีมาก
4. ประเทศอินโดนีเซีย-มาเลเซีย กำหนดห้ามส่งออกปาล์มน้ำมัน จึงไม่มีปาล์มจากต่างประเทศเข้ามาเติมในส่วนนี้
นาย ทศพล บอกด้วยว่า ราคารับซื้อปาล์มขณะนี้ไม่ต่ำกว่า 10 บาท บางพื้นที่อย่างเช่นภาคใต้ขยับขึ้นไปที่ 11.10 บาท และแนวโน้มการรับซื้อ จะขึ้นไปถึง 15 บาท ก็เป็นไปได้ จากเดิมที่เคยรับซื้อกิโลละ 2.40 บาท เท่านั้น
ทั้งนี้ ต้นทุนที่เกษตรกรลงทุนไปเดิมอยู่ที่ 3.80 บาท ตอนนี้ต้นทุนขยับขึ้นมา 4 บาท ที่ผ่านมารัฐบาล เคยจะประกันราคาปาล์มอยู่ที่ 5 บาท ท้ายที่สุดก็ยังทำไม่ได้
ประธานภาคีเครือข่ายชาวสวนยางและปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย กล่าวทิ้งท้ายว่า ตอนนี้รอเรื่องพรบ.ปาล์มน้ำมันฯ ที่เสนอเข้าไปยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร หาก พรบ.นี้ผ่าน จะข่วยให้ชาวสวนปาล์มได้ประโยชน์ ที่สำคัญจะแก้ปัญหาปาล์มได้ทั้งระบบ ตั้งแต่ปลูก จนถึงแปรรูป และส่งออก