กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจลานเท-โรงสกัดน้ำมันปาล์ม หลังมีราคาาปาล์ม – ปุ๋ยเค เริ่มปรับลดลง ฝั่งผู้ประกอบการยืนยันเปิดรับซื้อผลปาล์มตามปกติ
กรมการค้าภายในลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมลานเทสถานที่รับซื้อปาล์มน้ำมันในพื้นที่อำเภอเมือง และอำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกปาล์มน้ำมันมากเป็นอับดับ 5 ของประเทศ พบลานเท และโรงงานสกัด เปิดรับซื้อตามปกติ ขอให้เกษตรกรคลายความกังวล โดยกรมการค้าภายในได้สั่งการหน่วยงานในพื้นที่เข้มงวดตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อตรวจเยี่ยมดูความเรียบร้อยของจุดรับซื้อปาล์มน้ำมัน ภายหลังจากที่มีข่าวลานเทและโรงสกัดใช้ข้ออ้างในช่วงเทศกาลสารทเดือนสิบปฏิเสธการรับซื้อปาล์มน้ำมัน ทำให้ราคาปรับลดลงจนเกษตรกรได้รับความเดือดร้อน โดยจากการติดตามสถานการณ์พบว่า ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทั้งลานเท และโรงสกัดน้ำมันปาล์ม โดยยืนยันรับซื้อผลปาล์มต่อเนื่อง การหยุดของโรงงานเป็นเพียงในช่วงวันเสาร์ที่ 24 และอาทิตย์ที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับแรม1 ค่ำเดือน 10 และแรม 15 ค่ำเดือน 10 เป็นช่วงจัดงานเทศกาลงานวันสารทเดือน 10 ประจำปีของพี่น้องทางภาคใต้ ซึ่งทุกปีโรงงานสกัดและลานเทส่วนใหญ่ก็จะหยุด เพื่อให้พนักงานไปร่วมทำบุญในเทศกาลดังกล่าวเท่านั้น
สำหรับสถานกาณ์ด้านผลผลิตผลปาล์มน้ำมันที่ออกสู่ตลาดมีปริมาณตามที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรได้คาดการณ์ไว้ ราคารับซื้อผลปาล์มเป็นไปตามคุณภาพโดยหากเป็นผลปาล์มคุณภาพดี สามารถนำไปสกัดน้ำมันได้ 18% ขึ้นไป ลานเทและโรงสกัดจะรับซื้อในราคาไม่ต่ำกว่า 5 บาท/กก. จึงขอเชิญชวนให้เกษตรกรตัดปาล์มสุกตามอายุ เพื่อให้ได้ปาล์มคุณภาพดีและเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรที่จะขายได้ในราคาที่สูงขึ้น เนื่องจากจะสกัดได้เปอร์เซ็นต์น้ำมันที่ดี ในส่วนของโรงสกัด ขอให้ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อให้ชัดเจนและรับซื้อผลปาล์มในราคาที่เป็นธรรมตามคุณภาพปาล์มที่เกษตรกรนำมาขาย และสอดคล้องกับราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาด
ในส่วนของแนวโน้มราคาปุ๋ยเคมี จากการลงพื้นตรวจสอบร้านจำหน่ายปุ๋ยเคมีในจังหวัดตรังพบว่า ราคายังคงทรงตัวเนื่องจากเป็นปุ๋ยล็อตเก่า แต่ได้รับการยืนยันจากผู้ค้าปุ๋ยว่าล็อตใหม่ที่จะเข้าเอามาจำหน่ายจะมีราคาลดลง ส่วนในภาพรวมราคาปุ๋ยได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วง พ.ค. – ก.ย. โดยราคาปุ๋ยยูเรีย ซึ่งใช้กับทุกสินค้า รวมถึงปาล์มน้ำมัน ราคาได้ปรับลดลงจากช่วงเดือนพ.ค.2565 โดยลงมาแล้ว 17.8% ปุ๋ยสูตร 21-0-0 ที่ใช้กับปาล์มน้ำมัน ลดลง 8.2% และสูตร 15-15-15 ที่ใช้กับทุกสินค้าก็ลดลง 6.2% เช่นกันฯ อย่างไรก็ตาม กรมยังจะเดินหน้าติดตามสถานการณ์ราคาปุ๋ยอย่างใกล้ชิด ทั้งสถานการณ์ราคา และปริมาณ โดยจะติดตามดูว่า หากต้นทุนปุ๋ยเคมีนำเข้าปรับลดลง ตามราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับลดลง ก็จะขอให้ผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ปรับลดราคาลงมาตาม เพื่อช่วยดูแลและลดภาระให้กับเกษตรกร