เมื่อวานนี้(14กันยายน2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ ศาลปกครองนครราชสีมา เกษตรกรในพื้นที่อำเภอคง อำเภอพิมายและอำเภอโนนสูง จำนวน 11 ราย ได้รวมตัวนัดฟ้องคดีและนำเอกสารหลักฐานภาพถ่าย ยื่นฟ้องกรมชลประทานและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นผู้ถูกฟ้องคดีเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย
กรณีกรมชลประทานบริหารจัดการน้ำผิดพลาดทำให้เกิดน้ำท่วมขังพื้นที่บ้านพักอาศัยและแปลงเกษตรกรได้รับความเสียหายรวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท โดยถือป้ายข้อความ ระบุว่า“ขอความเป็นธรรมจากศาลปกครองให้ชาวนาจากความผิดพลาดในการจัดการน้ำของเขื่อนลำเชียงไกรโปรดช่วยเราด้วย” “โปรดช่วยเยียวยาด้วยรอมาเป็นปีแล้วแต่หายเงียบและเงียบหายกรมชลประทานไม่รับผิดชอบ” โดยมีนายฉัตรชัย เอมราช ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากผู้ฟ้องคดีหมายเลขดำที่ 259-269/2565
นายวีรวิทย์ หนึ่งในผู้เสียหายเปิดเผยว่า “พื้นที่แหล่งทำกินของผู้ฟ้องคดีตั้งอยู่นอกเขตประกาศแจ้งเตือนภัย เมื่อเกิดเหตุอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่างอำเภอโนนไทยทรุดเมื่อปีที่ผ่านมา ทำให้น้ำไหลทะลักท่วมฟาร์มปลาทับทิมขนาด 20 ตัน กุ้ง 5 ตัน รวมทั้งอุปกรณ์เครื่องจักรกลบ้านเรือนเครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯได้รับความเสียหายสาเหตุเกิดจากการบริหารจัดการน้ำผิดพลาด ส่งผลให้ประชาชนที่มีที่บ้านและทำกิน ตั้งอยู่ท้ายอ่าง ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ประชาชนเป็นผู้เสียภาษีต้องสิ้นเนื้อประดาตัวมีภาระหนี้สินจำนวนมาก จึงต้องพึ่งศาลปกครองดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งยังมีผู้ได้รับความเดือดร้อนกว่า 100 รายไม่กล้าออกมาต่อสู้และบางรายอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานยื่นฟ้องเรียกร้องขอความเป็นธรรม ก่อนหน้านี้ได้พยายามเรียกร้องตามสิทธิขั้นพื้นฐานโดยกรมชลประทานได้บ่ายเบี่ยงเลี่ยงบาลีมาตลอด”