รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี ชื่นชมผลงานเลิศรัฐ การแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำด้วย “ชลประทานเพื่อท้องถิ่น” อ่างเก็บน้ำแม่ตาช้าง จ.เชียงราย พร้อมขอบคุณหน่วยงานเกี่ยวข้องที่ทุ่มเททำงานให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (13 ก.ย. 65) เวลา 08.45 น. ณ บริเวณโถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมนิทรรศการแสดงผลงานรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2565 ผลงานการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำด้วย“ชลประทานเพื่อท้องถิ่น” อ่างเก็บน้ำแม่ตาช้าง จ.เชียงราย ซึ่งสำนักงาน ก.พ.ร. ได้จัดพิธีมอบรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2565 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีนายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เป็นผู้นำเสนอผลงาน และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย
พลเอก ประวิตร ได้สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับอ่างเก็บน้ำแม่ตาช้าง การบริหารจัดการน้ำเพื่อให้ประชาชนมีน้ำใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอ รวมทั้งการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของพื้นที่ร่วมกัน พร้อมทั้งขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ทุ่มเทและเป็นกลไกสำคัญในการดำเนินงานจนสำเร็จลุล่วง ในการบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคและการเกษตร เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างสูงสุด
โครงการอ่างเก็บน้ำแม่ตาช้าง จังหวัดเชียงราย เป็น 1 ในโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคและการเกษตร ในพื้นที่ตำบลป่าแดด อำเภอแม่สรวย และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งกรมชลประทาน ได้ให้ความสำคัญกับกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนทั้งในการดำเนินงานทุกขั้นตอน ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักของความสำเร็จ จนได้รับรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2565 สาขารางวัลการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม ระดับดี ประเภทสัมฤทธิผลประชาชนมีส่วนร่วม
จากผลงาน “การแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำด้วย ชลประทานเพื่อท้องถิ่น “ อ่างเก็บน้ำแม่ตาช้าง จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของกรมชลประทานและทีมงานชลประทานเพื่อท้องถิ่นอ่างเก็บน้ำแม่ตาช้าง ที่สามารถพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนในชุมชนได้อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ โครงการอ่างเก็บน้ำแม่ตาช้าง มีแผนดำเนินการก่อสร้าง 3 ปี โดยจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี2567 ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จทั้งโครงการฯ จะเป็นแหล่งน้ำต้นทุนในการอุปโภค บริโภค และเกษตรกรรม ให้แก่ประชาชน 25 หมู่บ้าน ในตำบลป่าแดด อำเภอแม่สรวย และพื้นที่บางส่วนของตำบลศรีถ้อยและตำบลแม่พริก อำเภอแม่สรวย พื้นที่กว่า 17,200 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่อยู่อาศัย 4,775 ครัวเรือน อีกทั้งยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์และอนุรักษ์สัตว์น้ำเพื่อใช้เป็นแหล่งประมงน้ำจืด รวมทั้งยังช่วยรักษาสภาพต้นน้ำลำธารเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่พื้นดิน ฟื้นฟูสภาพป่าไม้ให้ดีขึ้นอีกด้วย