ปลัดเกษตรฯ จับมือผู้ช่วยปลัดด้านการค้าและการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรฯออสเตรเลีย ฉลองครบรอบ 70 ปี การทูตระหว่างไทยและออสเตรเลีย ยกระดับความสัมพันธ์ไทย-ออสเตรเลียไปสู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์
ดร.ทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมการประชุมคณะทำงานร่วมด้านการเกษตร ออสเตรเลีย-ไทย ครั้งที่ 22 (The 22nd Meeting of the Australia – Thailand Joint Working Group on Agriculture: JWG) พร้อมด้วยนายสุรเดช สมิเปรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร.วนิดา กำเนิดเพ็ชร์ ผู้อำนวยการสำนักการเกษตรต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
โดยมี นายคริส ทีนนิ่ง (Mr. Chris Tinning) ผู้ช่วยปลัดด้านการค้าและการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรน้ำ และป่าไม้ หัวหน้าคณะผู้แทนออสเตรเลีย เป็นประธานร่วมฝ่ายออสเตรเลีย ณ นครเมลเบิร์น เครือรัฐออสเตรเลีย ว่า เนื่องในโอกาสครบรอบปีที่ 70 ของความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและออสเตรเลียทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำถึงการปฏิบัติตามข้อตกลงเขตการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2548 (17 ปี) โดยไทยและออสเตรเลียเสริมสร้างความร่วมมือด้านการเกษตร รวมถึงด้านการค้า การแลกเปลี่ยนนโยบาย และกิจกรรมความร่วมมือทางวิชาการต่าง ๆเป็นอย่างดีเสมอมา
“การประชุม JWG ไทย – ออสเตรเลีย ครั้งที่ 22 ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนด้านนโยบายการเกษตร ฝ่ายไทยได้นำเสนอการขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงเกษตรฯ ตั้งแต่ระดับโลกตามแนวทางขององค์การสหประชาชาติ (UN) เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และนโยบายระดับประเทศยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี การดำเนินการตามร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ในระยะ5 ปีถัดไป (พ.ศ. 2566 – 2570) รวมถึงนโยบาย Agri Challenge Next Normal 2022 ซึ่งตอบรับนโยบายการเป็นครัวของโลก (Kitchen of the World)
โดยฝ่ายออสเตรเลียนำเสนอแผนการพัฒนาการเกษตรของออสเตรเลีย นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายรับทราบความก้าวหน้าของโครงการความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างไทยกับออสเตรเลีย รวม 5 ด้าน ได้แก่
1) การพัฒนาเกษตรกรเพื่อเสริมสร้างศักยภาพเกษตรกรต้นแบบและเกษตรกรรุ่นใหม่ ผ่านการฝึกงานในลักษณะ On the Job Training (OJT) เป็นเวลา6 เดือน ณ สวนผลไม้ที่เมืองดาร์วิน ทางตอนเหนือของเครือรัฐออสเตรเลีย
2) ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการเกษตรในการพัฒนาการพยากรณ์สินค้าเกษตรของไทย
3) ความร่วมมือด้านปศุสัตว์เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีช่วยในการจัดการฟาร์มโคนม และการยกระดับด้านการผลิตและการตลาดโคเนื้อ
4) ความร่วมมือด้านน้ำในด้านการประยุกต์ใช้แนวทางการให้สิทธิและการขอใช้น้ำ (Water Requesting and Sharing) ในพื้นที่ที่ระบบการส่งน้ำที่มีจำกัด และด้านการบริหารจัดการน้ำและการตรวจสอบคุณภาพน้ำ
และ 5) ความร่วมมือด้านการประมงเกี่ยวกับวิธีการประเมินสภาวะทรัพยากรสัตว์น้ำ และวิธีการจัดการประมงของไทยและออสเตรเลีย” ปลัดเกษตร กล่าว
ภายหลังการประชุมฯ ประธานร่วมฝ่ายไทยและฝ่ายออสเตรเลีย ได้ลงนามในเอกสารถ้อยแถลงร่วม(Joint Statement) โดยมีเนื้อหาที่กล่าวถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างไทยและออสเตรเลียที่มีมาอย่างยาวนานภายใต้กรอบข้อตกลงเขตการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) และความร่วมมือทางด้านการเกษตรระหว่างกัน
โดยเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 ได้มีการยกระดับความสัมพันธ์ไทย-ออสเตรเลีย ไปสู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership)ทำให้เกิดโอกาสใหม่ๆ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นและสร้างความก้าวหน้าและความยั่งยืนในภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารให้มากขึ้น
การค้าระหว่างกันก็มีบทบาทสำคัญในการสร้างความมั่งคั่งและสนับสนุนความมั่นคงด้านอาหารอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ในด้านการอำนวยความสะดวกให้กับผู้นำเข้า ผู้ส่งออก และเกษตรกร ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะเร่งดำเนินการเปิดตลาดสินค้าเป็ดปรุงสุกจากประเทศไทยและอะโวคาโดพันธุ์ Hass จากรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ซึ่งคาดว่าจะสามารถเสร็จสิ้นภายในปี 2565 นี้ และรัฐมนตรีของทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันประกาศความสำเร็จในครั้งนี้ และยืนยันการเริ่มการค้าของสินค้า ทั้งสองชนิดนี้ระหว่างกัน
ทั้งนี้ ออสเตรเลียเป็นตลาดส่งออกสินค้าเกษตร อันดับที่ 34 ของไทย มูลค่าการค้าสินค้าเกษตร ไทย – ออสเตรเลีย ปี 2564 รวม 65,895.70 ล้านบาท โดยไทยส่งออกสินค้าเกษตรไปออสเตรเลีย 28,588.97 ล้านบาท และไทยนำเข้าสินค้าเกษตรจากออสเตรเลีย 37,306.73 ล้านบาท สินค้าเกษตรที่ไทยส่งออกไปออสเตรเลียที่สำคัญ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ปลาทูน่ากระป๋อง ข้าวสาร อาหารสัตว์ ผักและผลไม้ ของปรุงแต่งจากผลไม้ และสินค้าเกษตรที่ไทยนำเข้าจากออสเตรเลียที่สำคัญ ได้แก่ ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ นมและผลิตภัณฑ์จากนม