นาย ศักดินัย นุ่มหนู รองประธานกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ ตอบให้เคลียร์ ทาง NBT CENTRAL ว่า กมธ.การเกษตรฯ จะเชิญตำรวจ ฝ่ายปกครอง กระทรวงเกษตรฯและผู้เกี่ยวข้องให้ข้อมูลกรณีมีการจับกุมผู้ประกอบการที่กระทำผิดเกี่ยวกับทุเรียน ทั้งค้าทุเรียนอ่อน ที่อ.ท่าใหม่ อ.ขลุง และ อ.นายายอาม และเกี่ยวเนื่องกับการสวมสิทธิ์ทุเรียน 2 คดี ทั้งหมดแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว แต่จนถึงตอนนี้คดีไม่มีความคืบหน้า และเงียบผิดปกติ จึงอยากจะทราบการดำเนินการไปถึงใหนทางคดี เพราะอีกไม่กี่เดือนจะเข้าสู่ฤดูการผลผลิตรอบใหม่ของภาคตะวันออกแล้ว
นาย ศักดินัยฯ บอกว่า เจ้าหน้าเข้าตรวจสอบ และแจ้งความ มาจนถึงตอนนี้ยังไม่มีส่งฟ้องศาล จึงไม่ทราบว่าติดขัดตรงเรื่องใด เพราะถูกตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมจึงช้า หากรอไปจนถึงฤดูกาลผลิตรอบใหม่แล้วไม่สรุปสำนวนส่งฟ้อง สิ่งที่ภาครัฐในพื้นที่ทำมาจะสูญเปล่า และแก้ปัญหาในปีต่อไปไม่ได้เพราะคนที่ถูกแจ้งความไม่มีผลใดๆทางคดี ท้ายที่สุดก็จะไม่มีใครกลัวกฎหมาย สิ่งสำคัญที่ภาครัฐในพื้นที่ทำมาจะสูญเปล่าและเหนื่อยเปล่า
นายศักดินัย บอกอีกว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมวิชาการเกษตร ควรมอบอำนาจเต็มให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่สามารถดำเนินการขั้นเด็ดขาดได้ เพราะจะได้แก้ปัญหาได้ทันที เช่น มีอำนาจสั่งปิด ระงับถอนใบอนุญาตผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ โดยที่ไม่ต้องทำหนังสือเสนอไปส่วนกลาง เพราะปัญหาเกิดในพื้นที่ กว่าจะขออนุญาต กว่าจะพิจารณา บางครั้งแก้ปัญหาไม่ทันการณ์ โดยไม่ต้องกลัวว่า หากมอบอำนาจมาแล้วพื้นที่จะใช้อำนาจเกินขอบเขตหรือแสวงหาประโยชน์ เพราะมีกระบวนการตรวจสอบได้ผู้ถูกเจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจในทางไม่ควร ก็สามารถร้องเรียนและฟ้องศาลได้ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ที่ผ่านมาได้มอบหน้าที่ แต่ไม่มอบอำนาจให้แก้ปัญหาได้ ติดขัดอย่างไร
“ผมเห็นด้วยการกระจายอำนาจให้ต่างจังหวัดจัดการแก้ปัญหาเชิงพื้นที่ มันจะรอส่วนกลางทั้งหมด แก้ปัญหาไม่ได้หรอก“ รอง ปธ.กมธ.การเกษตรฯ กล่าว
นอกจากนี้ยังระบุถึงก่อนหน้านี้ มีข่าวขบวนการสวมสิทธิ์ทุเรียนในบางพื้นที่ มีความพยายามส่งทุเรียนด้อยคุณภาพออกด่านชายแดนแห่งหนึ่ง แต่ผ่านไปไม่ได้เพราะคุณภาพไม่ผ่าน เพียงเพื่อต้องการเอกสารจากไทยไปสวมทุเรียนที่เวียดนามส่งไปจีน จนถึงตอนนี้การดำเนินคดี ไม่มีความคืบหน้า แล้วแบบนี้ใครจะมาเกรงกลัวต่อการทำผิดกฎหมาย จึงควรปรับรูปแบบการทำงานและมอบอำนาจให้ภูมิภาค มีอำนาจเต็มจัดการปัญหาเชิงพื้นที่ได้บ้าง ไม่ควรรวบอำนาจไว้ทั้งหมด
ล่าสุดมีข้อมูลว่า”ล้ง”แห่งหนึ่งที่ จ.จันทบุรี พยายามส่งออกทุเรียนด้อยคุณภาพไปจีน กระบวนการ ใช้วิธีการทำคล้ายกับที่เคยถูกตรวจสอบได้ที่ด่านมุกดาหารและสั่งตีกลับ แล้วล้งแห่งนี้ จนท.ในพื้นที่ยังไม่สามารถจัดการเอาผิดได้ ส่วนขบวนการสวมสิทธิ์กรณีที่ด่านมุกดาหารตรวจพบ และตีกลับทุเรียนก็เช่นกันจนถึงตอนนี้เรื่องเงียบ ไม่มีความคืบหน้าใดๆ