ดร.ทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บรรยายพิเศษหัวข้อ “Agri challenge Next Normal เหลียวหลัง แลหน้า รองรับ Next Normal มุ่งขับเคลื่อนภาคเกษตรอย่างยั่งยืน” และเป็นประธานมอบรางวัลผลงานวิชาการดีเด่นภาคบรรยาย ผลงานวิชาการดีเด่นภาคนิทรรศการ และรางวัลปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดินในการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรมตามแผนที่การเกษตรเชิงรุก ภายในงานประชุมวิชาการกรมพัฒนาที่ดิน ประจำปี 2565 “60 ปี กรมพัฒนาที่ดิน การเปลี่ยนแปลงในทศวรรษหน้าสู่การพัฒนาที่ดินยั่งยืน” ณ โรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต โดยมีนางสาวเบญจพร ชาครานนท์ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน คณะผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยผู้บริหารและข้าราชการสังกัดกรมพัฒนาที่ดิน เข้าร่วม
ดร.ทองเปลว เปิดเผยว่า การบรรยายพิเศษในวันนี้ มุ่งหวังในการสร้างความเข้าใจแนวทางการดำเนินงานของกระทรวงเกษตรฯ และพัฒนาการทำงานไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้การดำเนินงานเกิดการบูรณาการอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งนโยบาย “Agri challenge Next Normal 2022” ของกระทรวงเกษตรฯ จึงเป็นนโยบายสำคัญที่มุ่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ นโยบายรัฐบาล และนโยบายกระทรวง ให้บรรลุเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้เกษตรกร โดยการวางรากฐานการทำงานของกระทรวงเกษตรฯ เพื่อรองรับความปกติใหม่ (New Normal) และสร้างเอกภาพในการขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
สำหรับกรมพัฒนาที่ดินมีความเชื่อมโยงของแผนนโยบายสำคัญกับภารกิจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีโครงสร้างและกลไกการขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติ รวมถึงเป็นส่วนสำคัญที่พาภาคเกษตรไทยมุ่งสู่ความสำเร็จ สร้างการขับเคลื่อน ภาคการเกษตรอย่างยั่งยืน
“การขับเคลื่อนภาคเกษตร ยังคงต้องมุ่งเน้นเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติที่ต้องการให้ “ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญด้านการผลิตและการค้าสินค้าเกษตรในเวทีโลก” รวมทั้งเป้าหมายนโยบายและแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและแผนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับด้านการเกษตร เพื่อความอยู่ดีมีสุขของเกษตรกร โดยพิจารณาสถานการณ์และแนวโน้มที่เกี่ยวข้องในทุกระดับ ทั้งสถานการณ์โลกที่เกี่ยวข้องกับด้านการเกษตร โอกาสและภัยคุกคามของภาคเกษตรจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เร่งให้โลกเข้าสู่ยุค Next Normal อย่างรวดเร็ว”
ปี 2565 ถือเป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ในการปรับแนวทางการทำงานของกระทรวงฯ การพัฒนากำลังคนภาคเกษตร พัฒนากระบวนการทำงาน ผลักดันวิจัยและนวัตกรรมเกษตรและยกระดับความร่วมมือเครือข่ายการพัฒนาภาคเกษตรจากทุกภาคส่วนโดยเฉพาะด้านนโยบายความยั่งยืนในระบบอาหารสัมพันธ์กับปัจจัยการผลิตทรัพยากรธรรมชาติ และระบบนิเวศ โดยหัวใจสำคัญในการผลักดันความยั่งยืนให้เกิดขึ้นอยู่ที่การบริหารจัดการที่ดีและมีประสิทธิภาพ เพื่อลดการสูญเสียตลอดห่วงโซ่อุปทาน และลดผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม อาทิ การบริหารจัดการน้ำ การบริหารจัดการดิน การบริหารจัดการพันธุ์พืช BCG Model ตลอดจนการทำเกษตรโดยใช้ตลาดนำการผลิต
ดังนั้นการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเป็นแรงขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดไปในทิศทางที่ถูกต้อง และบรรลุเป้าหมายการพัฒนาภาคเกษตรที่มุ่งหวัง มุ่งมั่นผลักดันเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ ดร.ทองเปลว กล่าว