ประกันรายได้ “ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์”งวดที่ 10 มาแล้ว ไม่ต้องจ่ายชดเชยส่วนต่าง หลังราคาพุ่งเกินเพดานประกันรายได้

นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นโยบายประกันรายได้เกษตรกรในพืชหลัก 5 ชนิดของรัฐบาลโดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดจากการติดตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรทั้ง ข้าว ยางพารา ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยวันนี้การประกันรายได้ผู้ปลูกข้าวปีที่ 3 โครงการได้โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงมาอย่างต่อเนื่องแล้ว

384157

ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ล่าสุดในส่วนของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่เก็บเกี่ยวช่วงนี้นั้นรายงานจากนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ระบุว่าได้อนุมัติราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2564/65 สำหรับเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 20 กรกฎาคม – 19 สิงหาคม 2565 โดยราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง กิโลกรัมละ 11.22 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาเป้าหมายที่กิโลกรัมละ 8.50 บาท จึงไม่ต้องชดเชยส่วนต่างให้เกษตรกร เนื่องจากราคาเกณฑ์กลางสูงกว่าเป้าหมาย จึงขอแจ้งข่าวให้ชาวนาทราบ และถือว่านโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์นายจุรินทร์นั้น ยังดันราคาพืชเกษตรสูงช่วยเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง ” นางมัลลิกา กล่าว

โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2564/65 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบให้ดำเนินโครงการเมื่อวันที่ 25 ต.ค.2564 ในกรอบวงเงิน 1,863 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือด้านรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยจะจ่ายเดือนละครั้งทุกวันที่ 20 จนสิ้นสุดโครงการ โดยมีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดทั้งประเทศ 4.5 แสนครัวเรือน ปลูกมากที่สุด คือ จังหวัดเพชรบูรณ์ รองลงมา คือ จังหวัดตาก เชียงราย และกระจายอยู่ 17 จังหวัดภาคเหนือ กับหลายจังหวัดในภาคอีสานและมีภูมิภาคอื่นด้วยเล็กน้อย แต่ในส่วนของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์นั้น รัฐไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยมาถึง 10 งวด ติดต่อกันแล้ว เนื่องจากราคาเกินเพดานประกันรายได้มาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับการคำนวณปริมาณผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ ได้ใช้วิธีการเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี (ปี 2562/63 , 2563/64 และ 2564/65) ของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 700 กก. ต่อไร่ คูณด้วยจำนวนไร่ตามที่เกษตรกรได้ขึ้นทะเบียนไว้ แต่ไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่

ส่วนการกำหนดราคาอ้างอิง คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ได้ใช้ราคารับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ความชื้นไม่เกิน 14.5% ของกรมการค้าภายใน เฉลี่ยย้อนหลัง 30 วัน โดยถ่วงน้ำหนักราคาตามปริมาณผลผลิตรายจังหวัดที่ออกสู่ตลาดรายเดือนในเดือนที่กำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง จากจังหวัดที่มีปริมาณผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มากที่สุด 10 อันดับแรก ตามข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ได้แก่ เพชรบูรณ์ นครราชสีมา น่าน ตาก เลย นครสวรรค์ ลพบุรี เชียงราย พิษณุโลก และแพร่ เพื่อคำนวณการจ่ายส่วนต่าง

โครงการประกันรายได้เกษตรกร เป็นโครงการที่สร้างความมั่นคงของรายได้ให้กับเกษตรกร โดยเป็นหลักประกันรายได้ขั้นต่ำในการประกอบอาชีพการเกษตร สร้างความมั่นคงด้านอาหาร รักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตรและเป็นการแทนนโยบายแทรกแซงระดับราคาสินค้าเกษตร/โครงการรับจำนำสินค้าเกษตรเพื่อลดภาระงบประมาณในการรับซื้อผลผลิตและจัดเก็บ/บริหารสต๊อกสินค้า

รวมทั้งเกษตรกรส่วนใหญ่ได้รับประโยชน์รวมถึงเกษตรกรที่ผลิตเพื่อการบริโภคในครัวเรือน โดยเริ่มต้นที่พืชเศรษฐกิจหลัก 3 ชนิด คือ ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันสำปะหลัง