
นายปณิธาน มีไชยโย ผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร เปิดเผยภายหลังพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ความร่วมมือด้านการขยายตลาดส่งออกสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภค ระหว่าง องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ Food Terminal Incorporated (FTI) สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ในวันที่ 10 เมษายน 2568 เวลา 10.30 น. ณ ตลาดน้ำ อ.ต.ก. จตุจักร กรุงเทพฯ
“จากการหารือระหว่าง ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับ H.E. Francisco P. Tiu Laurel, Jr. Secretary of the Department of Agriculture รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น อ.ต.ก.ที่มีศักยภาพด้านการตลาดสินค้าเกษตร ได้เร่งดำเนินการตามนโยบายการเจรจาในการขยายตลาดส่งออกสินค้าเกษตร รวมถึงการเจรจาส่งออกข้าวไปยังฟิลิปปินส์ เพื่อเป็นการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในช่วงที่ราคาข้าวตกต่ำ โดยทั้ง 2 ฝ่ายเห็นชอบที่จะร่วมมือในการซื้อขายสินค้าเกษตร โดยเฉพาะข้าวสารคุณภาพจากเกษตรกรไทย ซึ่ง อ.ต.ก.จะเป็นแหล่งกลางในการซื้อขาย จัดหาผลิตผลหรือผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร และสินค้าอื่นๆ พร้อมที่จะขับเคลื่อนการหารือดังกล่าว โดยร่วมกับ Food Terminal Incorporated (FTI) รัฐวิสาหกิจ (Government – Owned and Controlled Corporation – GOCC) ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานของประธานาธิบดีว่าด้วยรัฐวิสาหกิจ (Governance Commission for GOCCs – GCG) และขึ้นอยู่กับการอนุมัติของรัฐบาลกลางของรัฐ ในประเทศฟิลิปปินส์ และมีบทบาทหลักในการเป็นตัวแทนในการเจรจารับซื้อสินค้าเกษตร สนับสนุนและพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตร โดยเฉพาะด้านการจัดเก็บ การแปรรูป และการกระจายผลผลิตทางการเกษตรจากเกษตรกรไปยังผู้บริโภค” พิธีลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการร่วมกันดำเนินการและสนับสนุนการขยายตลาดส่งออกสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภค โดยศึกษาความเป็นไปได้และโอกาสทางธุรกิจในรูปแบบความร่วมมือต่างๆ เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการจัดหา จำหน่าย และส่งออกสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภค ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยการแสวงหาช่องทางการตลาด เพื่อเพิ่มโอกาสและช่องทางในการส่งออกและกระจายสินค้าของประเทศไทยสู่ต่างประเทศ เช่น การให้บริการจัดหา จำหน่าย ขนส่ง และขยายตลาดสินค้าเกษตรทั้งในและต่างประเทศผ่านการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ รวมถึงการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เกี่ยวกับแนวปฏิบัติและเทคโนโลยีการเกษตรอีกด้วย