วันที่ 5 สิงหาคม 65 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบผลการดำเนินงานและพอใจตัวเลข GDP“การเกษตรไตรมาส 2” ซึ่งขยายตัวร้อยละ 5.7 เชื่อมั่นว่าแนวโน้มเศรษฐกิจการเกษตรในปี 2565 จะขยายตัวต่อเนื่องในทุกสาขาการผลิต ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพัฒนาศักยภาพการผลิตสินค้าเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเดินหน้านโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์มุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ด้วยความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสร้างศักยภาพให้กับอุตสาหกรรมไทยสู่ระดับนานาชาติ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการวิเคราะห์ของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร พบว่าไตรมาส 2 ของปี 2565 ภาวะเศรษฐกิจการเกษตรขยายตัวร้อยละ 5.7 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 ซึ่งขยายตัวร้อยละ 4.1 เนื่องจากหลายปัจจัยเอื้ออำนวย ประกอบกับการดำเนินนโยบายและมาตรการภาครัฐในด้านการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต การตลาด และวิธีการปลูก ที่ลดภาระต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทำให้เกษตรกรสามารถทำการผลิตได้อย่างต่อเนื่อง ขยายการเพาะปลูกมากขึ้น อาทิ สาขาพืช สาขาบริการทางการเกษตร และสาขาป่าไม้
นอกจากนี้ รัฐบาลยังเร่งเดินหน้าขับเคลื่อนการดำเนินกิจกรรมในเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรม โดยได้ดำเนินการส่งเสริมการส่งออกสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์เพื่อนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจและสังคมไทย ด้วยการส่งเสริมการพัฒนาขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการแฟชั่นและเครื่องนุ่งห่ม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ได้จัดทำนโยบายดีพร้อมแคร์ (DIPROM CARE) ที่ปรับให้สอดคล้องกับบริบทของสภาพเศรษฐกิจ พฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน
รวมถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับ BCG และมุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ด้วยความคิดสร้างสรรค์ ผ่าน 3 วิธีดีพร้อม ประกอบด้วย 1. ดีพร้อมรักษ์โลก 2.ดีพร้อมอัพสกิล และ 3. ดีพร้อมแบรนด์ดิ้ง โดยคาดว่าจะสามารถเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้เพิ่มขึ้น 1.5 เท่าหรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 270 ล้านบาท ของการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา
นายกฯชื่นชมทุกหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการร่วมพัฒนาเศรษฐกิจภาคการเกษตร กำชับหน่วยงานต่าง ๆ เตรียมพร้อมรับมือสภาวะความแปรปรวนสภาพอากาศที่อาจรุนแรงขึ้นในช่วงฤดูฝนและปัญหาเศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลกระทบต่อเกษตรกรโดยรัฐบาลพร้อมเดินหน้าสนับสนุน ช่วยเหลือทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายส่งเสริมความเข้มแข็ง เสริมสร้างศักยภาพ ให้สอดคล้องกับบริบทโลกรูปแบบใหม่เพื่อนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจและสังคมไทย โฆษกรัฐบาล กล่าว