เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้ออกเผยแพร่ประกาศเรื่องการอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม เพื่อทำงานกับนายจ้างในกิจการประมงทะเล ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2565
ในเนื้อหาระบุว่า ปัจจุบันมีปัญหาการขาดแคลนแรงงานประมงทะเล จึงสมควรอนุญาตให้คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งระยะเวลาในการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดลงหรือกำลังจะสิ้นสุดลง ให้สามารถอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ เพื่อดำเนินการขอรับหนังสือคนประจำเรือตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การออกหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมง พ.ศ. 2565 ได้ต่อไป
สาระสำคัญระบุว่า คนต่างด้าวซึ่งได้รับการยกเว้นตามประกาศนี้ ได้แก่ ผู้ที่ต้องขอรับหนังสือคนประจำเรือ เพื่ออยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว และทำงานกับนายจ้างในกิจการประมงทะเลในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดที่มีอาณาเขตติดทะเล ที่มีสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีที่ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุและมีรอยตราประทับตรวจหนังสือเดินทางขาเข้าโดยเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรก่อนวันยื่นขอรับหนังสือคนประจำเรือ และระยะเวลาการอนุญาตสิ้นสุดลง แต่ไม่ได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร
คนต่างด้าว ซึ่งได้รับหนังสือคนประจำเรือตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการออกหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมงและระยะเวลาการอนุญาตสิ้นสุดลง แต่ไม่ได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรและคนต่างด้าว ซึ่งได้รับหนังสือคนประจำเรือตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการออกหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมง และได้รับการตรวจลงตราและประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวและระยะเวลาการอนุญาตสิ้นสุดลง แต่ไม่ได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร
ทั้งนี้ อนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 เพื่อดำเนินการขอรับหนังสือคนประจำเรือตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การออกหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมง พ.ศ. 2565 โดยให้คนต่างด้าวซึ่งได้รับใบรับคำขอหนังสือคนประจำเรือไปจัดเก็บข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลที่กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดที่เจ้าของเรื่อง หรือสถานที่อื่นที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกำหนด ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ออกใบรับคำขอหนังสือคนประจำเรือ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการรับหนังสือคนประจำเรือ
เมื่อคนต่างด้าวได้รับหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมงแล้ว ให้อยู่ในราชอาณาจักรได้เป็นการชั่วคราวโดยมีระยะเวลาตามอายุหนังสือคนประจำเรือ พร้อมทั้งให้คนต่างด้าวไปดำเนินการจัดทำ หรือปรับปรุงทะเบียนประวัติ หรือบัตรประจำตัวตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร และรับบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยที่สำนักงานเขต กรุงเทพมหานคร ศูนย์บริหารการทะเบียนภาคสาขาจังหวัด หรือสถานที่อื่นที่กรมการปกครองกำหนด
หากในกรณีที่คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ซึ่งได้รับหนังสือคนประจำเรือ และระยะเวลาการอนุญาตยังไม่สิ้นสุดลง แต่ยังไม่ได้รับการตรวจลงตราและประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวตามอายุหนังสือคนประจำเรือ และคนต่างด้าว ซึ่งได้รับหนังสือคนประจำเรือ แล้ว ประสงค์ขอรับการตรวจลงตราและประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร
ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองตรวจลงตราและ ประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวตามอายุหนังสือคนประจำเรือโดยให้ระบุข้อความไว้ด้วยว่า “เป็นคนที่ได้รับอนุญาตทำงานกับนายจ้างในกิจการประมงทะเล” และเมื่อได้รับอนุญาตแล้วสามารถออกนอกเขตพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 83 แห่งพระราชกำหนด การประมง พ.ศ.2558 ได้ แต่ยังต้องทำงานในเรือประมงและในบริเวณท่าเทียบเรือประมงเช่นเดิม
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ซึ่งได้รับหนังสือคนประจำเรือตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การออกหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมง(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2564 และได้รับการตรวจลงตราและประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวตามอายุหนังสือคนประจำเรือ และคนต่างด้าวที่ได้รับการตรวจลงตราและประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรแล้ว หากประสงค์จะอยู่ในราชอาณาจักรเพื่อการทำงานต่อไปอีกให้ขออนุญาตอยู่ในราชอาณาจักรได้อีกไม่เกินระยะเวลาตามอายุหนังสือคนประจำเรือ
แต่ในกรณีที่หนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางสิ้นอายุ ให้คนต่างด้าวดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งเอกสารดังกล่าว เพื่อใช้ในการขอรับการตรวจลงตราหรือตรวจอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวแล้วแต่กรณี
ทั้งนี้การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดลง หากคนต่างด้าวที่ไม่ดำเนินการตามประกาศนี้, คนต่างด้าวที่มีพฤติการณ์ที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือมีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าเป็นภัยต่อสังคม หรือจะก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุข หรือความปลอดภัยของประชาชนหรือความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรรวมถึงคนต่างด้าว ออกนอกเขตพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต เว้นแต่จะออกไปเพื่อขอรับการตรวจลงตราและประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรกับพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองเคลื่อนย้ายออกนอกท้องที่ที่ได้รับอนุญาตโดยทางเรือหรือทางบก เพื่อไปทำงานในท้องที่ทุกแห่งที่มีท่าเรือทำการประมงทะเล
ทั้งนี้ มิให้ออกนอกเขตบริเวณท่าเรือที่ทำการประมงทะเล โดยในกรณีเคลื่อนย้ายออกนอกท้องที่ที่ได้รับอนุญาตโดยทางบก ต้องมีหนังสือรับรองจากกรมประมงหรือหน่วยงานในสังกัด เพื่อจัดหาเครื่องอุปโภคหรือบริโภคในการดำรงชีพหรือยารักษาโรค เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ เป็นพยานศาล ได้รับหมายเรียกจากพนักงานสอบสวน มีหนังสือเรียกตัวจากหน่วยงานของรัฐ หรือเพื่อการรักษาพยาบาล โดยมีหนังสือหรือเอกสารที่ทางราชการออกให้มาแสดง แล้วแต่กรณี ได้รับอนุญาตให้ทำงานกับนายจ้างใหม่ในกิจการประมงทะเล ตามเงื่อนไขที่กำหนดตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การออกหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมงพ.ศ. 2565 โดยมีหนังสือหรือเอกสารที่ราชการออกให้มาแสดงสำหรับประกาศดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาที่ลงประกาศวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 ลงนามโดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ดูรายละเอียดตามประกาศราชกิจจานุเบกษา ที่นี่ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2565/E/175/T_0130.PDF