หอมกินดอก มักจะใช้เรียกต้นหอมหัวใหญ่ หอมแดง และ หอมแขก ที่เรามักจะปลูกไว้เพื่อนำดอกและต้นมาปรุงอาหาร แต่ที่นิยมรับประทานกันมาก คือ ดอกหอมจากต้นหอมหัวใหญ่ ไม่ว่าจะนำดอกมาผัดกับตับหรือหมู และลวกจิ้มรับประทานกับน้ำพริก ภาษาอังกฤษเรียกว่า Onion Flower Stem หรือ Scallion Flower ต้นหอมจะมีรสชาติหวาน ไม่มีกลิ่นแรง เมื่อตัดดอกและต้นมาใช้แล้ว ต้นหอมจะเจริญขึ้นมาใหม่ได้ พืชชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดในประเทศแถบเอเชียกลาง และถูกนำมาใช้ในการประกอบอาหารและใช้เป็นสมุนไพรมาช้านาน มีสรรพคุณทางยาหลากหลาย
การนำต้นหอมกินดอกและดอกมาใช้ประโยชน์นั้น สามารถนำมาใช้เพื่อบำรุงสมอง กระตุ้นความจำได้ดี บำรุงร่างกายทำให้เจริญอาหาร ทำให้ผ่อนคลาย นอนหลับง่าย ป้องกันการแข็งตัวของเลือด บรรเทาอาการหวัดและภูมิแพ้ ลดอาการแน่นท้อง ขับลม เป็นต้น ด้วยสรรพคุณมากมาย จึงได้มีการนำเอาดอกหอมและต้นหอมมาปรุงเป็นอาหาร เรียกได้ว่าเป็นการรับประทานอาหารให้เป็นยาไปในตัว
ต้นหอมกินดอกนั้น เป็นพืชประเภทล้มลุก อยู่ในวงศ์ของกระเทียม มีหัวรูปร่างกลมฝังอยู่ในดิน มีรากฝอยเป็นกระจุกสีน้ำตาลอ่อนไชในดิน รากจะเกิดขึ้นบริเวณด้านล่างของหัวหอม ลำต้นเหนือดินจะมีกาบใบสีเขียวโอบหุ้มไว้โดยรอบ แตกใบเรียวยาว ทรงกระบอก ด้านในกลวง มีปลายแหลม มีกาบโอบหุ้มโคนใบซ้อนกัน แตกดอกสีขาวเป็นช่อทรงกลมเป็นแฉกแบบซี่ร่ม ประกอบด้วยดอกย่อยหลายดอก ดอกมีกลิ่นหอม รสหวานและรสสัมผัสกรอบ ให้ผลรูปร่างกลม ภายในผลมีเมล็ด 3 เมล็ด เมล็ดมีลักษณะรี ผิวเรียบ เมื่อแก่เต็มที่ผลจะแตกออก สามารถเก็บเมล็ดมาขยายพันธุ์ได้ โดยหากใช้เมล็ดใหม่เพาะจะมีอัตราการงอกที่ดีกว่าเมล็ดที่เก็บไว้นาน ทั้งนี้เมล็ดที่จะนำมาปลูกไม่ควรเก็บไว้นานกว่า 6 เดือน
สำหรับการปลูกหอมกินดอกในกระถาง อาจจะใช้วิธีการชำก็ได้ โดยให้เริ่มจากการเตรียมดินร่วนซุยผสมเปลือกถั่วลิสงที่ทุบเป็นขนาดเล็กๆ ใส่ในกระถาง แล้วตัดต้นหอมบริเวณที่อยู่เหนือรากขึ้นไปประมาณ 4-5 เซนติเมตร นำรากที่ได้ไปปักชำในดินที่เตรียมไว้ ให้แต่ละต้นห่างกันราว 5 เซนติเมตรเพื่อไม่ให้รากของต้นหอมเบียดกันเกินไป แล้วรดน้ำให้พอชุ่ม แต่หากจะใช้เมล็ดปลูก ให้โรยเมล็ดประมาณ 5 เมล็ดลงบนผิวดิน แล้วรดน้ำได้เลย ต้นหอมที่ปลูกโดยการปักชำจะให้ผลผลิตเร็วกว่าการใช้เมล็ด โดยจะสามารถเก็บเกี่ยวมารับประทานได้หลังปลูกประมาณ 30-35 วัน ส่วนปลูกโดยเมล็ดจะใช้เวลาราว 42-45 วันจึงจะเก็บเกี่ยวได้
