“ลิ้นจี่ค่อมสมุทรสงคราม” GI หนามตั้ง หนังตึง เนื้อเต่ง

“ลิ้นจี่ค่อมสมุทรสงคราม “(Samutsongkhram Kom Lychee หรือ Litchi) หมายถึง ลิ้นจี่พันธุ์ค่อม หรือหอมลำเจียกที่มีกลิ่นหอมหวาน มีลักษณะหนามตั้ง หนังตึง เนื้อเต่ง ซึ่งปลูกในตำบลบางขันแตก อำเภอเมือง,อำเภออัมพวาและอำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงครามกรมทรัพย์สินทางปัญญาประกาศให้ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ( GI ) “ลิ้นจี่ค่อมสมุทรสงคราม” เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555

cover 6433de5db2823

กระบวนการผลิต

การยกร่อง

ทำคันดินรอบพื้นที่ปลูกเพื่อป้องกันน้ำทะเลแลและน้ำฝนเข้าท่วมถึง โดยยกร่องปลูกและมีร่องระบายน้ำระหว่างร่องปลูกการยกร่องควรอยู่ในลักษณะขวางตะวัน (แนวเหนือ-ใต้) เพื่อให้ต้นลิ้นจี่ได้รับแสงแดดเท่ากันสม่ำเสมอ

การปลูก

( 1 )มีระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 10 – 12 เมตร หรือตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่

(2) หลุมปลูกขนาดกว้าง ยาว ลึก ประมาณ 50 – 80 เซนติเมตร ผสมดินและปุ๋ยอินทรีย์ในอัตรา 3:1 โดยปริมาตร ผสมให้แล้วกลบลงในหลุมปลูกให้ดินบริเวณปากหลุมสูงกว่าดินเดิมประมาณ 15 เซนติเมตร หรือตามความเหมาะสม

(3) นำกิ่งพันธุ์ลงปลูกกลางหลุมตั้งยอดให้ตรงแนบกับหลัก กลบดินโดยรอบ กดให้แน่น บังด้วยร่ม

(4) การตัดแต่งกิ่งให้ทำทุกปีหลังเก็บเกี่ยวผลแล้วและใส่ปุ๋ยเพื่อบำรุงต้น

(5) การห่อผลโดยใช้ถุงกระดาษห่อทั้งช่อผล ผูกปากถุงกับโคนก้านช่อให้แน่น เมื่อผลลิ้นจี่เริ่มเปลี่ยนสีจากเขียวเป็นแดง
เรื่อๆ หรือก่อนเก็บเกี่ยวประมาณ 20 – 25 วัน

464569104 8620424257980003 6330799737558460155 n

การเก็บเกี่ยว

1) วิธีสังเกตผลแก่ คือ หลังจากดอกบานประมาณ 4 เดือน ขนาดผลโตเต็มที่สีเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีชมพูแดง ฐานของ
หนามที่เปลือกจะขยายออก ปลายหนามแหลม ร่องหนามถ่างออกเห็นได้ชัด

( 2) เก็บในช่วงแดดไม่จัด โดยใช้พะองหรือบันไดพาดกิ่งแล้วปืนขึ้นไปเก็บแล้วโรย

(3) ควรทยอยเก็บผลผลิตที่แก่พอเหมาะ ประมาณ 2 – 3 วันต่อครั้ง

(4) หลังเก็บผลลิ้นจี่จากต้นแล้ว นำไปรวมในที่ร่ม ทำการตัดแต่งช่อผล ตัดผลไม่สมบูรณ์ออก

464313601 8620424274646668 6316369295714338703 n



ลักษณะภูมิประเทศ

จังหวัดสมุทรสงคราม ได้ชื่อว่าเป็นเมืองสามน้ำ ทำให้พื้นที่เหมาะแก่การทำกสิกรรมเป็นอย่างยิ่ง โดยได้รับอิทธิพลจากแม่น้ำแม่กลองไหลผ่าน ในตอนกลางมีน้ำกร่อย และน้ำเค็มจัดในบริเวณปากอำว พื้นที่มีลักษณะเป็นที่ราบชายฝั่งมีความลาดเอียงไปทางชายฝั่งทะเล มีคลองธรรมชาติและคลองชุดเชื่อมต่อกันกว่า 300 คลอง ทำหน้าที่ระบายน้ำระหว่างพื้นที่ส่วนบนและฝั่งทะเล ส่งผลให้มีตะกอนดินถูกพัดมาทับถมกัน เกิดเป็นชุดดินสมุทรสงคราม เป็นดินดอนจากปากแม่น้ำ ดินชั้นบนมีลักษณะการทับถมเป็นชั้นของดินและอินทรีย์วัตถุ ดินชั้นล่างมีสีเทา บางแห่งพบเปลือกหอยปะปนอยู่ด้วย ปฏิกิริยาของตินเป็นกรดเล็กน้อยถึงเป็นด่างปานกลาง มีค่าความเป็นกรดเป็นด่างอยู่ระหว่าง 7.0 – 8.5 มีความอุดมสบูรณ์ ปานกลางถึงสูงเนื่องจากมีธาตุอาหารฟอสฟอรัสและโปแทสเซียมอยู่สูง และลักษณะภูมิอากาศเป็นแบบนเมืองร้อนเหมาะสมแก่การปลูกลิ้นจี่ค่อมสมุทรสงคราม

ประวัติความเป็นมา

จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน เดิมเป็นแขวงหนึ่งของจังหวัดราชบุรี ต่อมาปลายสมัยศรีอยุธยาต่อเนื่องสมัยกรุงธนบุรีจึงแยกออกมาเรียกชื่อว่า ” เมืองแม่กลอง” เพราะมีแม่น้ำแม่กลองไหลผ่าน และได้ชื่อว่า” เมืองสามน้ำ” จึงมีพื้นที่เหมาะแก่การทำกลิกรรมเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะลิ้นจี่ค่อมสมุทรสงคราม ที่มีรสหวานอร่อย สีแดงสด ซึ่งผู้นำมาคนแรกคือ นายติ มีแก้วกุญชร ชาวสวน ด.แควอ้อม อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม โดยนำเมล็ดมาจากตรอกจันทร์ ยานนาวา บางกอก เมื่อราวปี พ.ศ. 2397 ปรากฏว่าให้ผลเร็วภายใน 3 ปี ผลดกเต็มต้นมีสีแดงสด รสหวานอร่อย เดิมเรียกพันธุ์ ” อีค่อม”เพราะต้นไม่ค่อยสูงมีลักษณะเป็นพุ่ม ต่อมาจึงตัดคำว่า”อี” ออกเพราะเห็นว่าไม่สุภาพเหลือเพียง “ลิ้นจี่พันธุ์ค่อม” ลิ้นจี่เป็นหนึ่งในผลไม้ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสมุทรสงครามจึงมีการจัดงาน “วันลิ้นจี่และของดีเมืองแม่กลอง” ช่วงเดือนเมษายนของทุกปี และเป็นหนึ่งในคำขวัญจังหวัดว่า “เมืองหอยหลอด ยอดลิ้นจี่ มีอุทยาน ร.2 แม่กลองไหลผ่าน นมัสการหลวงพ่อบ้านแหลม”


ทั้งนี้ขอบเขตพื้นที่การปลูกลิ้นจื่ค่อมสมุทรสงคราม ครอบคลุมพื้นที่ของจังหวัดสมุทรสงคราม ในเขตพื้นที่ตำบลบางขันแตก
อำเภอเมือง อำเภออัมพวา และอำเภอบางคนที

43.55100043 แผนที่ถูกต้อง page 0005แก