“มะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว” (Banphaeo Aromatic Coconut และ/หรือ Mapraaonamhom Banphaeo) หมายถึง มะพร้าวน้ำหอมพันธุ์ต้นเตี้ย ผลมีลักษณะกลมรีเหมือนหัวลิงและก้นมีจีบเป็นพู 3 พู ชัดเจน เปลือกสีเขียว เนื้อมะพร้าวเหนียวนุ่ม น้ำมะพร้าวมีรสหวานและกลิ่นหอมคล้ายใบเตย ซึ่งปลูกครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านแพ้ว อำเภอกระทุ่มแบน และอำเภอเมืองสมุทรสาคร ของจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้กรมทรัพย์สินทางปัญญาประกาศให้ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ( GI) “มะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว” เมื่อ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2561
การปลูก
(1) ขยายพันธุ์โดยใช้หน่อพันธุ์จากผลแก่ที่มีอายุ 11 – 12 เดือน โดยต้นพันธุ์จะต้องมีอายุ 10 ปีขึ้นไป โดยสีเปลือกมะพร้าวจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อน เรียกว่าสีก้ามปู เมื่อเก็บผลมาผึ่งไว้ในที่ร่มจนเปลือกเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล จากนั้นปาดผลมะพร้าวทางหัวด้านบนมาเพาะพันธุ์เป็นหน่อ ปลายของรากอ่อนเมื่อขยี้แล้วจะได้กลิ่นหอมคล้ายใบเตย
(2) ปลูกแบบยกร่องสวนเพื่อลดการท่วมขังของน้ำ เนื่องจากจังหวัดสมุทรสาครมีน้ำใต้ดินสูง และเป็นดินเหนียวระบายน้ำได้น้อย
(3) เตรียมหลุมปลูกขนาด 50 x 50 x 50 เซนติเมตร ตากหลุมไว้ 1 สัปดาห์ ระยะปลูก 6 x 6 เมตรนำดินที่ผสมปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก เศษใบไม้ หรือกาบมะพร้าว ใส่ในหลุม แล้วขุดดินเป็นบ่อเล็กๆ ขนาดประมาณผลมะพร้าว นำหน่อพันธุ์วางลงในหลุม 2 ใน 3 ของลูก เอาดินกลบและกดดินข้างๆ ให้แน่น
(4) สามารถปลูกได้ทั้งปี แต่ฤดูฝนในพฤษภาคม – สิงหาคม อากาศและดินจะมีความชุ่มชื้มเหมาะสมต่อการเจริญเติบโต
(5) การใส่ปุ๋ย ใช้ปุ๋ยอินทรีย์หรือเคมี โดยการให้ปุ๋ยอินทรีย์ควรใส่ต้นละประมาณ 2 ปี๊บต่อปี (20 – 30 กิโลกรัม/ต้น/ปี)
(6) ควบคุมและกำจัดวัชพืชในสวนมะพร้าวให้สะอาด
การเก็บเกี่ยว
มะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว ให้ผลผลิตตลอดปี ระยะที่เหมาะสมสำหรับเก็บมะพร้าวคือหลังจากจั่นบานประมาณ 6 เดือน 2 สัปดาห์ เป็นระยะที่น้ำมีรสหวาน เนื้อนุ่ม สามารถบริโภคเนื้อได้ทั้งผล สามารถเก็บเกี่ยวได้ทุก 20 วัน
ลักษณะภูมิประเทศ
จังหวัดสมุทรสาคร ตั้งอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มชายฝั่งทะเล สูงจากระดับน้ำทะเล 1.00 -2.00 เมตร ซึ่งเป็นความสูงที่เหมาะสมสำหรับการปลูกมะพร้าวน้ำหอม
นอกจากนี้ การมีพื้นที่อยู่ใกล้ทะเลทำให้ได้รับอิทธิพลด้านความชื้นในชั้นบรรยากาศที่สม่ำเสมอ มีความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยที่ 76 – 92.5% อยู่ในช่วงที่เหมาะสมทำให้ผลผลิตที่ดี ประกอบกับน้ำทะเลมีธาตุอาหารหลายชนิด เช่น โซเดียม และคลอรีน ซึ่งเป็นสารประกอบที่มะพร้าวต้องการ โดยโซเดียมสามารถใช้ทดแทนไปแคลเซียม ซึ่งมีผลเรื่องความหวานของน้ำมะพร้าว และลมทะเลมีไอเกลือที่มะพร้าวต้องการ ตลอดจนดินที่ใช้ปลูกมะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้วเป็นดินเหนียวมีอนุมูลของโพแทสเซียม ซึ่งมีความจำเป็นกับมะพร้าวในการสร้างน้ำตาลและไขมัน ซึ่งจะทำให้น้ำและเนื้อมะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว มีรสชาติหวานหอม
ประวัติความเป็นมา
มะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว เกิดจากการพัฒนาพันธุ์โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งได้นำมะพร้าวน้ำหอมพันธุ์ต้นเตี้ย (dwarf palms) ลักษณะลูกกลมและลูกรีมาผสมกัน จนได้มะพร้าวพันธุ์ท้องถิ่นที่มีลักษณะลูกกลมรีเหมือนหัวลิง และบริเวณก้นเป็นจีบ 3 จีบอย่างชัดเจน โดยคุณเทพ ทองคำใส (นายช่างชลประทาน) เป็นบุคคลแรกของจังหวัดสมุทรสาคร ที่นำมาเพาะปลูกและขยายพันธุ์ จากนั้นมีการปลูกกันอย่างแพร่หลายในพื้นที่ใกล้เคียงมาตั้งแต่ พ.ศ. 2495 จนถึงป้จจุบัน ซึ่งใน
จังหวัดสมุทรสาครนั้น เดิมนิยมปลูกมากที่อำเภอบ้านแพ้ว จึงเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายในนามมะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว
ขอบเขตพื้นที่การปลูกมะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว ครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอได้แก่ อำเภอเมืองสมุทรสาคร อำเภอกระทุ่มแบน และอำเภอบ้านแพ้ว ของจังหวัดสมุทรสาคร