ศ.ดร นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหมายให้ นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร จัดงาน “สืบสาน รักษา ต่อยอด ศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์อันเนื่องมาจากพระราชดำริเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” และงาน “ใต้ร่มพระบารมี 30 ปี ศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์ฯ ” บูรณาการงานสานต่อศาสตร์พระราชาร่วมกับหน่วยงานภายในศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสนองพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมเปิดศูนย์ฯ ให้ประชาชนเรียนรู้ผ่านนิทรรศการ 10 ฐานเรียนรู้สู่ชุมชน รวมถึงเป็นต้นแบบพัฒนาสร้างอาชีพ ต่อยอดเสริมรายได้ สามารถนำองค์ความรู้ไปปรับใช้ในพื้นที่เกษตรของตนเองได้
นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงาน “สืบสาน รักษา ต่อยอด ศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” และงาน “ใต้ร่มพระบารมี 30 ปี ศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” ว่า การจัดงานในวันนี้ ถือเป็นการบูรณาการของหน่วยงานภายในศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่สานต่องานศาสตร์พระราชาในการเป็นศูนย์พัฒนาการเกษตรแบบเบ็ดเสร็จ ให้ความช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เพื่อเฉลิมพระเกียรติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสนองพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยได้มีโอกาสเยี่ยมชมติดตามความก้าวหน้าของหน่วยงานร่วมบูรณาการภายในศูนย์ฯ 10 หน่วยงาน พร้อมทั้งมอบต้นพันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีเหลืองกระบี่ ให้แก่ผู้แทนเกษตรกร จำนวน 6 ราย มอบไม้ผลพันธุ์ดีจากกรมวิชาการเกษตร ให้แก่ผู้แทนเกษตรกร จำนวน 10 ราย อีกทั้งร่วมกิจกรรมปล่อยพันธุ์ปลาลงสู่สระน้ำหน้าศาลาทรงงานจากชุดเพาะฟักพันธุ์ปลาเคลื่อนที่ และร่วมปลูกไม้ผลพันธุ์ดีที่ได้รับการรับรองพันธุ์จากกรมวิชาการเกษตร ณ แปลงเกษตรทฤษฎีใหม่
นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ปี 2567 ถือเป็นปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุ 72 พรรษา และในโอกาสครบรอบ 30 ปีของการก่อตั้งศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2537 จากพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง รมว.เกษตร มอบหมายให้ กรมวิชาการเกษตร และหน่วยงานบูรณาการภายในศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จัดงาน “สืบสาน รักษา ต่อยอด ศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และงาน “ใต้ร่มพระบารมี 30 ปี ศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” เพื่อเฉลิมพระเกียรติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้ โดยได้เผยแพร่พระเกียรติคุณน้อมนำพระราชปณิธาน สืบสาน รักษา ต่อยอด ไปขยายผลให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าได้รับทราบ และนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน อีกทั้งยังเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวในโครงการพัฒนาตามพระราชดำริของศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ทั้งนี้ ถือเป็นปีแห่งการครบรอบ 30 ปีแห่งการก่อตั้งศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2537 จึงได้เปิดศูนย์ฯ ให้ประชาชนในพื้นที่ได้เรียนรู้ผ่านนิทรรศการ 3 ของดี @ ศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประกอบด้วย ชุดเพาะฟักพันธุ์ปลาเคลื่อนที่ มะนาวนอกฤดูในวงบ่อซีเมนต์ และเห็ดระโงกในไม้วงศ์ยาง นิทรรศการประวัติความเป็นมาและการขยายผลความสำเร็จสู่เกษตรกรตลอดระยะเวลา 30 ปี ของศูนย์ฯ รวมถึงจัดแสดงนิทรรศการโครงการพระราชดำริต่างๆ และพระราชกรณียกิจนานัปการ ที่ทำให้ประชาชนชาวไทยเกิดการพัฒนาและมีความผาสุก ตลอดจนเยาวชนคนรุ่นหลังได้สืบสาน รักษา ต่อยอด และขยายผลให้เจริญเติบโตเกิดผลเป็นรูปธรรม
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมนั่งรถรางท่องเที่ยวตามพระราชดำริ “10 ฐานเรียนรู้สู่การพัฒนาคุณภาพชีวิต : พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิตของ ศพก.ภูสิงห์ฯ” กิจกรรมแจกพืชพันธุ์ดีจากกรมวิชาการเกษตรให้กับเกษตรกรทั่วประเทศ 7,200 ต้น เพื่อนำไปปลูกในพื้นที่ของตนเอง กิจกรรมมอบปัจจัยการผลิต อาทิ มอบต้นพันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีเหลืองกระบี่ให้กับผู้แทนเกษตรกร 6 ราย 72 ต้น และมอบต้นไม้ผลพันธุ์ดีจากกรมวิชาการเกษตรให้กับผู้แทนเกษตรกร 10 ราย 10 ชนิด กิจกรรมรถรางร่วมปลูกไม้ผลพันธุ์ดีที่ได้รับการรับรองพันธุ์จากกรมวิชาการเกษตร ณ แปลงเกษตรทฤษฎีใหม่ ได้แก่ ทุเรียนพันธุ์ กวก.จันทบุรี 7 8 และ10 / มะขามเปรี้ยวพันธุ์ กวก.ศรีสะเกษ 1 / มะม่วงแก้วพันธุ์ กวก.ศรีสะเกษ 007 / มะม่วงหิมพานต์พันธุ์ กวก.ศรีสะเกษ 3 / ลิ้นจี่พันธุ์ กวก.นครพนม 1 และมะนาวพันธุ์ กวก.พิจิตร 2
“กรมวิชาการเกษตร และหน่วยงานบูรณาการภายในศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ มุ่งมั่น สืบสาน รักษา ต่อยอดฯ สานต่องานศาสตร์พระราชาในการเป็นศูนย์พัฒนาการเกษตรแบบเบ็ดเสร็จ ให้ความช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสนองพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการยกระดับขับเคลื่อนการเกษตรไทยให้สู่การเป็นศูนย์กลางการเกษตรและอาหารของโลก เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว
