ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจสังคมที่บีบรัดและแข่งขันเช่นทุกวันนี้ คนไทยคงต้องตระหนักถึงการประหยัดและพอเพียงมากขึ้น สุขภาพของคนในครอบครัวเป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งที่ต้องเอาใจใส่ เพราะมีค่าใช้จ่ายสูงมากหากเจ็บป่วย
วิธีดูแลสุขภาพ ได้แก่ การออกกำลังกาย ลดความเครียด รับประทานอาหารสุขภาพ หลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่างๆ การใช้สารธรรมชาติและการใช้พืชสมุนไพร นับเป็นอีกทางเลือกที่ใช้ในการดูแลสุขภาพ
อย่างไรก็ตาม ก่อนการใช้สมุนไพรทุกครั้งควรศึกษาให้เข้าใจเกี่ยวกับสรรพคุณ ขนาด ปริมาณ และวิธีการใช้อย่างถูกต้องเพื่อให้ได้ผลดีในการรักษา และดูแลสุขภาพ
******
“บัวบก” เป็นพืชล้มลุก ลำต้นสั้น มีไหลเลื้อยแผ่ไปตามดิน มีรากงอกออกตามข้อของลำต้น ใบรูปร่างกลม ขอบใบหยักเป็นคลื่น มีดอกขนาดเล็กสีม่วง
“บัวบก “เป็นพืชที่สามารถปลูกได้ทั่วไป ปลูกได้ดีในดินเหนียวหรือดินเหนียวปนดินร่วนพื้นที่ชื้นแฉะแต่น้ำ ไม่ท่วมขัง สามารถขึ้นได้ดีทั้งในที่ร่มรำไรและที่โล่งแจ้งมีแสงแดดมาก ลำต้นและใบบัวบกมีสารสำคัญ คือ กรดมาเดคาสสิก (Madecassic acid) กรดเอเซียติก(Asiatic acid) มีฤทธิ์ในการสมานแผล ต้านเชื้อแบคทีเรีย รักษาอาการอักเสบ กระตุ้นการสร้างภูมิต้านทาน ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยบำรุงประสาทและความจำสารสกัดบัวบกใช้มากในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและยา
การขยายพันธุ์และการปลูก
“บัวบก “ขยายพันธุ์โดยการใช้ไหลหรือเมล็ด การใช้ไหลเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกรวดเร็วกว่าการใช้เมล็ด โดยนำลำต้นหรือไหลที่มีรากและต้นอ่อน ตัดเป็นท่อน ๆ ไปเพาะในกระบะเพาะประมาณ 1-2 สัปดาห์รดน้ำ ให้กระบะเพาะมีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ แล้วจึงย้ายกล้าจากกระบะเพาะไปปลูกในแปลงหรือภาชนะที่เตรียมไว้
การปลูกในแปลง ควรเตรียมแปลงให้ดินร่วนซุย และยกร่องแปลงให้สูงเหนือกว่าระดับดินปกติเพื่อป้องกันน้ำ ท่วมขัง โดยทำแปลงให้กว้างประมาณ 1-2 เมตร ความยาวตามความเหมาะสมของพื้นที่ ตากดินประมาณ 7 วัน จากนั้นพรวนดินพร้อมใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์ อัตรา 1-2 กิโลกรัมต่อตารางเมตร
หลังจากนั้นนำไหลที่เพาะไว้ ปักลงในแปลง ระยะปลูกระหว่างต้น 15 เซนติเมตร ระหว่างแถว 15 เซนติเมตร ระยะแรกของการปลูกควรทำตาข่ายพรางแสงไว้ประมาณ 7-10 วัน หลังจากนั้นจึงนำตาข่ายพรางแสงออก บัวบกมีระบบรากตื้นประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร จึงสามารถปลูกได้ดีในภาชนะต่างๆ และภาชนะห้อยแขวนที่มีปากกว้าง และมีความลึกไม่เกิน 10 เซนติเมตร
การดูแลรักษา
“บัวบก” ต้องการความชื้นแฉะมากจึงควรให้น้ำ อย่างสม่ำเสมอ แต่ต้องระวังอย่าให้น้ำขังจะเกิดโรคโคนเน่า เนื่องจากบัวบกเป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ง่าย การให้ปุ๋ยจึงไม่จำเป็น อาจให้เมื่อต้นมีสภาพไม่สมบูรณ์เท่านั้น ให้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ปริมาณดูตามความเหมาะสมของขนาดพื้นที่ที่ปลูก การเจริญเติบโต ความอุดมสมบูรณ์ของดินและความสมบูรณ์ของต้นบัวบกด้วย และทุกครั้งที่มีการใส่ปุ๋ยเสร็จแล้วจะต้องรดน้ำให้ชุ่ม
การเก็บเกี่ยว
เริ่มเก็บเกี่ยว “บัวบก” หลังจากปลูกได้ประมาณ 60-90 วัน โดยใช้มีดตัดต้นเหนือจากพื้นดินประมาณ 2-3 เซนติเมตร และสามารถเก็บเกี่ยวรอบต่อไปได้ภายใน2-3 เดือน และหากบำรุงรักษาดีจะสามารถเก็บผลผลิตได้นานประมาณ 2-3 ปี
การใช้ประโยชน์ในครัวเรือน
“บัวบกสด” ใช้รับประทานเป็นผักสดหรือคั้นน้ำ ทำเป็นเครื่องดื่ม โดยการนำบัวบกทั้งราก 1 กำมือ มาล้างให้สะอาด ตำให้ละเอียด คั้นน้ำดื่มรักษาอาการร้อนใน อ่อนเพลีย บำรุงกำลัง น้ำคั้นใบบัวบกใช้ทาบริเวณแผลสด ช่วยสมานแผล ใบสดควรเก็บรักษาในตู้เย็น หากทิ้งให้เหี่ยวจะทำให้สารสำคัญบางชนิดลดลงรวดเร็ว