ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจสังคมที่บีบรัดและแข่งขันเช่นทุกวันนี้ คนไทยคงต้องตระหนักถึงการประหยัดและพอเพียงมากขึ้น สุขภาพของคนในครอบครัวเป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งที่ต้องเอาใจใส่ เพราะมีค่าใช้จ่ายสูงมากหากเจ็บป่วย
วิธีดูแลสุขภาพ ได้แก่ การออกกำลังกาย ลดความเครียด รับประทานอาหารสุขภาพ หลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่างๆ การใช้สารธรรมชาติและการใช้พืชสมุนไพร นับเป็นอีกทางเลือกที่ใช้ในการดูแลสุขภาพ
อย่างไรก็ตาม ก่อนการใช้สมุนไพรทุกครั้งควรศึกษาให้เข้าใจเกี่ยวกับสรรพคุณ ขนาด ปริมาณ และวิธีการใช้อย่างถูกต้องเพื่อให้ได้ผลดีในการรักษา และดูแลสุขภาพ
*******
“กระเจี๊ยบแดง” เป็นไม้พุ่มขนาดเล็กสูงประมาณ 1.2-2 เมตร กิ่งก้านมีสีม่วงแดง ใบมีหยักเว้า 3 หยัก ขอบใบเรียบ ดอกมีสีชมพู ตรงกลางจะมีสีเข้มกว่าส่วนนอกของกลีบ เมื่อกลีบดอกร่วงโรย กลีบรองดอกและกลีบเลี้ยงจะเจริญขึ้น มีสีม่วงแดงเข้ม มีรสเปรี้ยว
“กระเจี๊ยบแดง” เป็นพืชที่ปลูกเลี้ยงง่าย ชอบอากาศร้อนหรือค่อนข้างร้อน ทนต่อความแห้งแล้ง และไม่ชอบน้ำ ขัง กลีบรองดอกและกลีบเลี้ยงของกระเจี๊ยบแดง เมื่อนำมาต้มกับน้ำ ใช้ดื่มแก้ร้อนใน กระหายน้ำ มีสรรพคุณป้องกันการจับตัวของไขมันในเส้นเลือด
การขยายพันธุ์และการปลูก
“กระเจี๊ยบแดง” ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด พันธุ์พื้นเมืองจะมีกลีบขนาดเล็กไม่หนา แต่มีสารสำคัญสูง เลือกพื้นที่แจ้ง มีแสงแดดจัดเต็มวัน ไม่มีน้ำ ขัง ขึ้นได้ในดินทุกชนิด
“กระเจี๊ยบแดง”เป็นพืชไวแสงจะออกดอกเมื่อวันสั้น จึงควรปลูกในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ซึ่งจะออกดอกเมื่ออายุประมาณ 120 วัน นำเมล็ดไปแช่น้ำ คัดเมล็ดลอยทิ้ง เก็บไว้เฉพาะเมล็ดจม นำขึ้นผึ่งลมจนแห้ง แล้วนำไปปลูก
การปลูกแบบหยอดเมล็ด หยอดหลุมละประมาณ 2-3 เมล็ด ระยะปลูกระหว่างต้น 1 เมตร ระหว่างแถว 1 เมตร แล้วกลบดินเล็กน้อย เมื่ออายุได้3-4 สัปดาห์เป็นต้นอ่อน ถอนให้เหลือหลุมละ 1 ต้น
การปลูกในภาชนะ ควรเตรียมดินร่วนซุยหยอดเมล็ดลงในภาชนะปลูก แล้วกลบดินเล็กน้อย ตั้งไว้ในที่มีแสงแดดทั้งวัน
การดูแลรักษา
กระเจี๊ยบแดง ระยะอายุ 30-60 วัน หลังเมล็ดงอก ควรให้น้ำสม่ำเสมอ หลังจากนั้นจะทนต่อความแห้งแล้งได้ดี การใส่ปุ๋ย ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์ ช่วงที่เริ่มเจริญเติบโต อายุ 10-15 วัน และอายุ 40-50 วัน ไม่ควรให้ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนมากเกินไป กำจัดวัชพืชรอบ ๆ โคนต้นอย่างสม่ำเสมอ
การเก็บเกี่ยว
กระเจี๊ยบแดง เก็บเกี่ยวประมาณเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม
วิธีการเก็บเกี่ยว เก็บส่วนดอกกระเจี๊ยบแดง เฉพาะดอกที่แก่ ใช้กรรไกรหรือมีดตัดใส่ในภาชนะที่สะอาดและมีวัสดุรองแยกกลีบเลี้ยและกลีบดอกออกจากเมล็ด นำไปตากแดดจนแห้งสนิท เลือกต้นกระเจี๊ยบแดงที่มีดอกโต เนื้อหนา สีแดงเข้ม เก็บเมล็ดแก่ไว้ทำพันธุ์
การใช้ประโยชน์ในครัวเรือน
-กลีบรองดอกและกลีบเลี้ยงสด นำมาต้มกับน้ำ และน้ำตาล ใช้ดื่มแก้ร้อนในกระหายน้ำและป้องกันการจับตัวของไขมันในเส้นเลือด
-นำกลีบรองดอกและกลีบเลี้ยงตากแห้ง บดเป็นผง นำมาชงในน้ำเดือดครั้งละ 1 ช้อนชาต่อน้ำ 1 ถ้วย ดื่มวันละ 3 ครั้ง จะช่วยขับปัสสาวะ
-ใบของกระเจี๊ยบแดง ใช้แกงส้ม มีวิตามินเอสูงช่วยบำรุงสายตา