สันนิบาตสหกรณ์ฯ ยื่นหนังสือถึงสภาขอชะลอการพิจารณา “ร่างกฎกระทรวงสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ”

ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือจากประธานสันนิบาตสหกรณ์ฯ ขอรัฐชะลอการพิจารณาร่างกฎกระทรวงสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ หลังข้อกำหนดส่งผลกระทบการดำเนินงานระยะยาว ไม่เป็นตามเจตนารมณ์ของสหกรณ์

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย รับหนังสือจากนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ประธานกรรมการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย เรื่อง ขอความอนุเคราะห์ชะลอการพิจารณา ร่างกฎกระทรวงการบริหารจัดการและการกำกับดูแลทางการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน พ.ศ. ….

12491 g 20220720131034 scaled
ยื่นหนังสือขอชะลอร่างกฎกระทรวงสหกรณ์ฯ

สืบเนื่องจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้พิจารณาปรับปรุงร่างกฎกระทรวงดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติหลักการประกอบกับเพื่อให้กฎกระทรวงมีผลบังคับใช้ตามมาตรา 89/6 วรรคหนึ่ง (4) (5) (7) (10) และ (13) แห่ง พ.ร.บ.สหกรณ์ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.สหกรณ์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2542

โดย สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ได้รับการร้องขอจากสมาชิกสหกรณ์จำนวนมากให้เป็นตัวแทนของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนในการเคลื่อนไหว เพื่อให้มีการชะลอการพิจารณาร่างกฎกระทรวงดังกล่าว เพื่อให้ได้ข้อยุติร่วมกันระหว่างส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและสหกรณ์เสียก่อน เนื่องจากข้อกำหนดบางประการในร่างกฎกระทรวง อาจก่อให้เกิดผลกระทบและความเสียหายต่อการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน

อาทิ การดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องของสหกรณ์ออมทรัพย์ กรณีเงินฝากชุมนุมสหกรณ์หรือตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกโดยชุมนุมสหกรณ์ การไม่นำค่าหุ้นมาพิจารณาก่อนประมาณการค่าเผื่อหนี้เงินกู้สงสัยจะสูญหลักเกณฑ์และอัตราการตั้งค่าเผื่อหนี้เงินกู้สงสัยจะสูญของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน การไม่อนุญาตให้บุคคลในครอบครัวสมาชิกเข้าค้ำประกันหนี้เงินกู้สามัญของสมาชิก และการกำหนดเพดานอัตราดอกเบี้ยเงินรับฝากของสหกรณ์

จากการรับฟังความคิดเห็นจากสมาชิกสหกรณ์ทุกภาคส่วนทั่วประเทศ ทุกคนล้วนไม่เห็นด้วย เนื่องจากร่างกฎกระทรวงฯ ไม่สนับสนุนต่อการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน แต่ส่งเสริมและสนับสนุนสถาบันการเงิน ซึ่งระยะยาวอาจจะทำให้สหกรณ์ต้องหยุดดำเนินการและลดจำนวนลง

อีกทั้งทำให้ประชาชนขาดที่พึ่งทางการเงินที่เป็นแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ อันมีสมาชิกเป็นเจ้าของแตกต่างจากสถาบันการเงินอื่น ๆ ซึ่งนายทุนเป็นเจ้าของกิจการ ดังนั้นเพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ให้กับประชาชนได้มีที่พึ่ง จึงเห็นควรให้มีการทบทวนและชะลอพิจารณาปรับปรุงร่างกฎกระทรวงดังกล่าว โดยขอให้ภาครัฐรับฟังความคิดเห็นของสหกรณ์มากยิ่งขึ้น เพื่อลดปัญหาอันจะเกิดขึ้นในอนาคต

ด้าน นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ผลพวงจากกฎหมายฉบับนี้ ทำให้การทำหน้าที่ของสหกรณ์ไม่สามารถเป็นไปตามเจตนารมณ์และวัตถุประสงค์ของสหกรณ์ส่งผลให้ประชาชนกว่า 20 ล้านคน ได้รับความเดือดร้อน เพราะไม่สามารถเป็นศูนย์รวมในการพัฒนาระดมทุนให้เกิดขึ้น เพื่อสร้างเศรษฐกิจฐานรากได้ รวมทั้งไม่สามารถดูแลสวัสดิภาพ สวัสดิการของสมาชิกสหกรณ์ได้ เนื่องจากมีข้อจำกัดหลายประการ

ดังนั้น ทางพรรคเพื่อไทยจะรับหนังสือฉบับนี้เข้าสู่กลไกการตรวจสอบของสภา อาทิ การตั้งกระทู้ การเสนอญัตติเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง และหากกฎหมายมีปัญหาและส่งผลกระทบต่อประชาชนจริง ต้องมีการทบทวนปรับปรุงแก้ไขกฎหมายต่อไป