สืบเนื่องจากราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง การกำหนดให้วันที่ ๑๓ ตุลาคม ของทุกปี เป็น”วันนวมินทรมหาราช” ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 2 ตุลาคม 25ุ66 มีเนื้อหาดังนี้
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมแก่อาณาประชาราษฎร์ ตลอดรัชสมัยของพระองค์ ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการเพื่อความวิวัฒน์พัฒนาของชาติบ้านเมืองเป็นคุณประโยชน์อเนกอนันต์และยังความผาสุกร่มเย็นแก่ผองพสกนิกรชาวไทย พระเกียรติคุณเป็นที่แซ่ช้องก้องประจักษ์ทั้งแก่ปวงชนชาวไทยและนานาอารยประเทศ แม้การเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ จะล่วงเลยมาจนถึงปัจจุบัน พสกนิกรทุกหมู่เหล่ายังล้วนคำนึงถึงด้วยความสำนึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างไม่รู้ลืมเลือน เพื่อให้วันคล้ายวันสวรรคตเป็นวันแห่งการร่วมรำลึกและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้แห่งพระมหากษัตริย์ ผู้ทรงมีคุณปการอันยิ่งใหญ่แก่แผ่นดิน ประกอบกับวันที่ ๑๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ จะเป็นวันแห่งการเสด็จสวรรคตครบ ๗ ปี หรือ “สัตตมวรรษ”
รัฐบาลจึงได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยเกี่ยวกับการกำหนดชื่อวันคล้ายวันสวรรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระดำริประทานชื่อวันดังกล่าวเพื่อประกอบพระบรมราชวินิจฉัย ว่า “วันนวมินทรมหาราช” (อ่านว่า นะ-วะ-มิน-ทระ-มะ-หา-ราด) แปลว่า วันทีระลึกถึงพระมหาราชรัชกาลที่ ๙ ผู้ยิ่งใหญ่ การนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้กำหนดชื่อวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ว่า “วันนวมินทรมหาราช” ตามที่รัฐบาลได้ขอพระราชทานพระมหากรุณาจึงกำหนดให้วันที่ ๑๓ ตุลาคม ของทุกปี เป็น “วันนวมินทรมหาราช”
บัดนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๖๖ รับทราบการกำหนดให้วันที่๑๓ ตุลาคม ของทุกปี เป็น “วันนวมินทรมหาราช”