นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทานเปิดเปยว่าจากสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ลุ่มน้ำยมตอนบน กรมชลประทานได้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือน้ำหลากที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีก ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ไว้ ซึ่งแนวโน้มปริมาณน้ำที่จะไหลผ่าน อ.วังชิ้น จ.แพร่ คาดว่าในช่วงค่ำวันนี้ (23 ก.ย. 67) จะแตะที่ 1,000 ลบ.ม.ต่อวินาที
ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ว่า เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะทำให้ภาคเหนือตอนบนมีฝนตกหนักมากบางแห่ง นั้น ปัจจุบันพบว่าทางตอนบนของลุ่มน้ำยมมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ทำให้มีปริมาณน้ำไหลจากลำน้ำสาขาลงสู่แม่น้ำยมในปริมาณที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ระดับแม่น้ำยมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรมชลประทาน ได้ประเมินสถานการณ์น้ำในเบื้องต้น พบว่าที่สถานีวัดน้ำ Y.37 อ.วังชิ้น จ.แพร่ มีแนวโน้มที่น้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 1,000 ลบ.ม.ต่อวินาที ในช่วงค่ำของวันนี้ (23 ก.ย. 67) ก่อนที่มวลน้ำดังกล่าวจะไหลลงสู่ประตูระบายน้ำแม่น้ำยม (ปตร.บ้านหาดสะพานจันทร์) ในช่วงเช้าของวันถัดไป (24 ก.ย. 67) โดยขณะนี้ ได้ประกาศแจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ข้อมูลไปยังจังหวัดสุโขทัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว เพื่อให้ประชาชนได้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำได้อย่างทันท่วงที
สำหรับการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำยม กรมชลประทาน จะใช้เครื่องมือในการบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่ในพื้นที่อย่างเต็มศักยภาพ โดยที่ จ.แพร่ จะใช้ฝายแม่ยมทำการหน่วงน้ำไว้ที่ด้านเหนือฝาย เพื่อชะลอปริมาณน้ำที่จะไหลหลากลงสู่ด้านท้ายผ่าน อ.เมืองแพร่ ส่วนที่ จ.สุโขทัย จะใช้คลองหกบาท คลองยมน่าน และแม่น้ำยมสายเก่า เร่งระบายน้ำ เพื่อช่วยตัดยอดน้ำหลากก่อนที่จะเข้าตัวเมืองสุโขทัย พร้อมควบคุมการระบายน้ำผ่าน ปตร.บ้านหาดสะพานจันทร์ ลงสู่แม่น้ำสายหลัก ลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด ขณะเดียวกัน ยังได้เตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ และเจ้าหน้าที่ ไว้รองรับสถานการณ์เผชิญเหตุ ที่พร้อมจะเข้าไปสนับสนุนช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันต่อเหตุการณ์