“สับปะรดศรีเชียงใหม่” (Sri Chiang Mai Pineapple wรือ Sab Pa Rod Sri Chiang Mai) หมายถึง สับปะรดพันธุ์ปัตตาเวีย รูปผลทรงรี ร่องตาตื้น ก้านสั้น เปลือกบาง เนื้อเส้นใยละเอียด มีสีเหลืองเข้ม (สีน้ำผึ้ง) มีกลิ่นหอม รสชาติหวานฉ่ำ แกนหวานกรอบ รับประทานแล้วไม่กัดลิ้น ปลูกและผลิตในเขตพื้นที่ อำเภอศรีเชียงใหม่ ของจังหวัดหนองคาย ทั้งนี้กรมทรัพย์สินทางปัญญา ประกาศให้ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ( GI) “สับปะรดศรีเชียงใหม่” เมื่อ 11 ก.พ 2563 โดยผู้ยื่นขอจดทะเบียน คือ จังหวัดหนองคาย
อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ตั้งอยู่ที่ละติจุด 17 องศา 56 ลิปดา 9 ฟิลิปดาเหนือ และลองจิจูดที่ 102 องศา 30 ลิปดา 11 ฟิลิปดาตะวันออก ห่างจากจังหวัดหนองคายไปทางทิศตะวันตกระยะทาง 56 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 198 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 123,750 ไร่ ลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม มีป่าโปร่งและเนินเขา มีแม่น้ำโขงไหลผ่านทางทิศเหนือ ความยาวประมาณ 30 กิโลเมตร กั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญที่ก่อให้เกิดประโยชน์ทางการเกษตร ลักษณะพื้นที่เพาะปลูกเป็นชุดดินโพนพิสัย กลุ่มชุดดินที่ 49 มีลักษณะดินตื้นถึงชั้นกรวดลูกรัง ดินบนเป็นดินร่วนทรายหรือดินร่วน ทำให้สามารถระบายน้ำได้ดี มีธาตุโพแทสเชียมสูง
และมีค่าความเป็นกรดด่าง (pH) อยู่ในช่วง 4.5 – 6.5
อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย มีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปี 26.5 องศาเซลเชียส ได้รับอิทธิพลจากมรสุมที่พัดประจำฤดูกาล 2 ชนิด คือ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งพัดพามวลอากาศเย็นและแห้งจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเข้าปกคลุมประเทศไทยตั้งแต่ประมาณกลางเดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ทำให้อำเภอศรีเชียงใหม่มีอากาศหนาวเย็นและแห้ง และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดพามวลอากาศขึ้นจากทะเลและมหาสมุทรเข้าปกคลุมประเทศไทย ประมาณกลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม ซึ่งอยู่ในช่วงฤดูฝน ทำให้มีฝนตกชุกทั่วไป ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,600 มิลลิลิตรต่อปี ความขึ้นสัมพัทธ์เฉลี่ยร้อยละ 70.58 ซึ่งหากปีใดที่มีปริมาณน้ำฝนเพียงพอก็ไม่จำเป็นต้องให้น้ำแก่สับปะรดศรีเชียงใหม่เพิ่ม
จากลักษณะภูมิประเทศและลักษณะภูมิอากาศดังกล่าว ส่งผลให้ “สับปะรดศรีเชียงใหม่“ที่ปลูกในพื้นที่อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย สามารถเจริญเติบโตได้ดีมีคุณภาพ รสชาติหวานฉ่ำ แกนหวานกรอบรับประทานแล้วไม่กัดลิ้น รวมถึงเนื้อเส้นใยละเอียด มีสีเหลืองเข้ม (สีน้ำผึ้ง) และมีกลิ่นหอม ต่างจากสับปะรดที่ปลูกในพื้นที่อื่นของจังหวัดหนองคาย
“สับปะรดศรีเชียงใหม่” ได้เริ่มปลูกที่อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย เมื่อปี พ.ศ. 2521โดยมีเกษตรกรตำบลบ้านหม้อ อำเภอศรีเชียงใหม่ นำหน่อพันธุ์สับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียจากอำเภอรัตนวาปี จังหวัดหนองคาย มาทดลองปลูกจำนวน 1 ไร่ และได้นำภูมิปัญญาท้องถิ่นรวมถึงประสบการณ์ในการปลูกพืชสวนมาประยุกต์ใช้กับการปลูกสับปะรด โดยการปลูกเรียงเป็นแถวขวางกับแนวแสงแดด มีการคลุมหญ้าคาหลังจากดอกม่วงของสับปะรดร่วงแล้ว เพื่อเป็นการป้องกันผลไหม้ กระทั่งมีผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตรเข้ามารับซื้อสับปะรดของอ๋าเภอศรีเชียงใหม่นำไปแปรรูป ทำให้เกษตรกรกรสนใจปลูกสับปะรดเพิ่มมากขึ้นในทุกตำบลของอำเภอศรีเชียงใหม่ เนื่องจากสามารถจำหน่ายได้ทั้งตลาดผลสดและส่งโรงงานแปรรูป
ต่อมาสำนักงานเกษตรจังหวัดหนองคาย ได้ส่งเสริมและให้ความรู้แก่เกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดให้มีคุณภาพและได้รับการรับรองมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practices: GAP) รวมถึงได้มีการตรวจวิเคราะห์หน้าดินและพัฒนาการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน เพื่อปรับปรุงดินให้เหมาะสมแก่การปลูกสับปะรดมากยิ่งขึ้น จึงส่งผลให้”สับปะรดศรีเชียงใหม่”มีคุณภาพดี มีเอกลักษณ์โดดเด่น มีร่องตาตื้น ผิวเปลือกไม่ใหม้ เนื้อเส้นใยละเอียด ไม่เป็นแกนดำ มีกลิ่นหอม รสชาติหวานฉ่ำ และไม่แสบลิ้นหรือกัดลิ้นเหมือนสับปะรดทั่วไป
นอกจากนี้ อำเภอศรีเชียงใหม่ยังมีการจัดงานเทศกาลประจำปี “วันสับปะรดหวาน” เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 และจัดต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้สับปะรดศรีเชียงใหม่ เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น รวมทั้งมีการจำหน่ายสินค้าสับปะรดศรีเชียงไหมในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เช่น ท็อปส์ มาร์เก็ต ในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซา บางนา เป็นต้น