เฉลิมชัยสั่งปศุสัตว์คุมเข้ม “ลัมปี สกิน” ได้ผล พบการระบาดในวงแคบ เตรียมระดมทำวัคซีนหลังครม.อนุมัติงบกลางจัดซื้อวัคซีน
วันที่ 16 กรกฎาคม 2565 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคลัมปี สกิน ในปี 2564 เป็นต้นมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ติดตามและดำเนินการควบคุมโรคมาโดยต่อเนื่องรวมไปถึงการช่วยเหลือ เยียวยา เกษตรกรมาโดยตลอด และล่าสุด ได้รับรายงานจากกรมปศุสัตว์ เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา พบการระบาดอยู่ในวงจำกัด มีโคเนื้อติดลัมปี สกินเพิ่มขึ้นเพียง 4 ตัวเท่านั้นในจังหวัดขอนแก่นและร้อยเอ็ด อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์ เร่งดำเนินการในการควบคุมโรคในทุกพื้นที่ หาแนวทางป้องกันการเกิดโรค และให้เยียวยาช่วยเหลือเกษตรกรผู้เดือดร้อนให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด โดยให้รายงานผลดำเนินการมาที่ตนโดยตรง
“กระทรวงเกษตรฯห่วงใยพี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ครม.ได้จัดสรรงบกลางฯ จำนวน 2 รายการ คือ ดำเนินการจัดซื้อวัคซีนโรคลัมปี สกิน จำนวน 6.3 ล้านโดส และค่าวัสดุวิทยาศาสตร์เพื่อการแพทย์ในการฉีดวัคซีน รวม 231.95 ล้านบาท เป็นค่าจัดซื้อวัคซีนโรคลัมปีสกิน เฉลี่ย 36 บาท/โดส และฉีด 1 โดส/ปี รวม 226.80 ล้านบาท และค่าจัดซื้อวัสดุวิทยาศาสตร์เพื่อการแพทย์ 5.15 ล้านบาท และสองค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรกรณีโค-กระบือ ป่วยตายด้วยโรคลัมปีสกิน ตั้งแต่ มี.ค. 64-30 เม.ย. 65 จำนวน 203.10 ล้านบาท รวมงบประมาณทั้งสิ้น 435.05 ล้านบาท”
ด้านนายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า ปัจจุบันกรมปศุสัตว์ได้ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคอยู่ให้อยู่ในวงจำกัด จากการรายงานของ สำนักควบคุม ป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ กรมปศุสัตว์ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2565 มี 60 จังหวัดที่ไม่พบการระบาดใหม่หรือสัตว์ป่วยตายจากโรคลัมปี สกินเกิน 1 เดือน และมี 7 จังหวัดที่ยังพบสัตว์ป่วยหรือตายตัวสุดท้ายระยะเวลาน้อยกว่า 7 วัน ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามได้กรมปศุสัตว์ได้มีมาตรการในการควบคุม ป้องกันโรคลัมปี สกินในโคกระบือ มาอย่างเข้มงวดต่อเนื่อง เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหา เฝ้าระวัง ควบคุมและป้องกันโรคลัมปี สกิน ให้อยู่ในวงพื้นที่จำกัดโดยเร็ว ลดผลกระทบและความเสียหายให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด และสามารถดำเนินการควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อเนื่อง ตามหลัก “รู้เร็ว โรคสงบได้เร็ว”
“ได้สั่งการให้ปศุสัตว์ทุกพื้นที่ทำงานเชิงรุกในการลงพื้นที่สอบสวนโรคทันทีเมื่อพบการระบาด รวมไปถึงการแนะนำเกษตรกรในการปรับปรุงฟาร์มเพื่อยกระดับการเลี้ยงและการจัดการฟาร์มให้มีระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ การสร้างเครือข่ายในพื้นที่ การทำระบบการรายงานผลที่มีประสิทธิภาพรวดเร็ว ซึ่งในพื้นที่ที่มีการรายงานพบโรคจะมีการยกระดับความเข้มงวดเป็นพิเศษ สถานการณ์ในวันนี้ถือว่าไม่หนักมากเหมือนปีที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์กำลังดำเนินการระดมฉีดวัคซีนลัมปี สกิน ให้กับโคกระบือของเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง”
สำหรับการเยียวยาเกษตรกรนั้น อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า “ปัจจุบันกรมปศุสัตว์ได้มีการช่วยเหลือเยียวยาให้แก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากกรณีมีโค กระบือป่วยตายจากโรคลัมปี สกิน แล้ว ตามระเบียบ กค. ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 รวม 41 จังหวัด (เกษตรกร ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาแล้ว จำนวน 52,170 ราย วงเงิน 1,212.72 ล้านบาท)
คงเหลือเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือเนื่องจากอยู่นอกพื้นที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินตามหลักเกณฑ์ รวม 19 จังหวัด เกษตรกร 9,789 ราย (จำนวนโคและกระบือรวม 11,422 ตัว) เป็นเงินทั้งสิ้น 203.1 ล้านบาท ซึ่ง ครม.ได้มีการอนุมัติงบประมาณส่วนนี้ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน ได้นำเสนอเข้าครม.อนุมัติ
ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์จะเร่งดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู โคและกระบือโดยเร็ว หากประชาชนต้องการข่าวสารหรือข้อมูลเพิ่มเติมสามารถค้นหาได้ที่ www.dld.go.th หรือที่แอปพลิเคชั่น DLD 4.0 หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ 063-225 -6888 ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง” อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าว