ครม. มีมติแก้ปัญหาปลาหมอคางดำ 7 มาตรการ ใช้งบ 450 ล้านบาท มั่นใจบูรณาการรัฐ-ประชาชน ได้ผล จบปัญหาปี 70

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า แม้ปัญหาปลาหมอคางดำจะเกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว และเป็นปัญหาที่คาราคาซังต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน แต่ละรัฐบาลถือว่าเป็นความเดือดร้อนของประชาชนจึงเป็นภารกิจที่รัฐบาลปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องเอาใจใส่ และมีความจริงจังในการแก้ปัญหา จึงได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานว่าที่ผ่านมาได้จัดการไปอย่างไร และจากนี้จะมีมาตรการอย่างไร

S 23282434

นายชัย กล่าวอีกว่า นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงว่า ที่ผ่านมากรมประมงได้พยายามแก้ไขแล้วแต่เอาไม่อยู่ เพราะที่ผ่านมาขาดการบูรณาการกับภาคประชาสังคมและภาคเอกชน ดังนั้นในรอบนี้จึงมีการเชิญนายกสมาคมประมง นายกสมาคมผู้เพาะพันธุ์สัตว์น้ำต่างๆ ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและวางแผนในการแก้ไขปัญหา โดยตกผลึกเป็นมาตรการ 7 ข้อ ใช้งบประมาณ 450 ล้านบาท ซึ่งปัญหาปลาหมอคางดำ จะจบสิ้นและหมดไปจริงๆ ในปี 2570 โดยจากนี้จะค่อยๆ ลดไปตามลำดับ โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยืนยันว่าได้ผลแน่นอน เพราะเป็นการตกผลึกระหว่างภาครัฐกับเอกชน

โดย 7 มาตรการ มีดังนี้

1.จับลดปริมาณปลาหมอคางดำในแหล่งแพร่ระบาด 4,000,000 กิโลกรัม หรือ 4,000 ตันภายในกลางปี 2568

2.ส่งปลาผู้ล่า หลังลดปลาหมอคางดำ เช่น ปลากะพง

3.นำปลาหมอคางดำที่ได้ไปทำปุ๋ยหมัก น้ำชีวภาพ น้ำปลาร้า ปลาป่น เพื่อให้ปลาที่จับมาไม่สูญเปล่า

4.ป้องกันการแพร่กระจายไปยังแหล่งน้ำข้างเคียง

5.ให้ความรู้กับประชาชนในการสังเกตป้องกันอันตราย หากระบบนิเวศถูกสัตว์น้ำต่างถิ่นเข้ามารุกราน

6.แผนระยะกลางและระยะยาวใช้เทคโนโลยีด้านการเหนียวนำโครโมโซมของปลาหมอคางดำจาก 2N เป็น 4N จะทำให้ให้เป็นหมัน เมื่อเข้าไปผสมกับธรรมชาติลูกปลาหมอคางดำที่ออกมาจะกลายเป็น 3N ทำให้ได้ปลาหมอคางดำที่เป็นหมัน

7.การฟื้นฟูแหล่งน้ำที่โดนปลรหมอคางดำทำลายโดยกรมประมงจะนำสัตว์น้ำกลับคืนถิ่นเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศของแหล่งน้ำนั้น ตามข้อมูลที่มีการบันทึกไว้